สูตรอาหาร แบบตัวอักษร
ข้าวอบรวมมิตร
 
   
ส่วนผสม
วิธีทำ
ข้าวสวย 2 ถ้วย
เนื้อหมูหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 2 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้งทอด 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เห็ดหอมแช่น้ำหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 2 ช้อนโต๊ะ
แครอทหั่นชิ้นเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีเด็ดเป็นใบ 1 ต้น
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเป็นเส้น 1 เม็ด
พริกหวานหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 1 เม็ด
หอมใหญ่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 หรือ 1 ช้อนชา
ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสพริก 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ

ความคิดเห็นที่ 201 คุณ : jj [2005-06-04 06:40:36] [203.151.60.xxx]




สวัสดีครับ คุณวัน วันนี้ไม่แอบครับเข้ามาดูจริงๆครับสูตรอาหารมันเยอะครับ ตัองเข้ามาดูบ่อยๆครับรับรองครับจะนำไปใช้ในชีวิตประจำวันครับ.....สรุปแล้ววันนี้มาให้กำลังใจ..คุณ..วันครับ..ขอบคุณ...สำหรับ..สิ่ง..ที่...ดีดี..ครับ

ความคิดเห็นที่ 202 คุณ : วัน [2005-06-04 08:14:19] [84.147.133.xxx]



สวัสดีคะคุณjj มาทักทายทุกวันเช่นกันนะคะ ถ้าเบื่ออาหารประจำวันก็ลองนำสูตรที่จัดหามานี้ไปใช้ให้เป็นประโยนช์เถอะคะ เสน่ห์ปลายจวักแฟนรักแฟนหลงนะคะ

ความคิดเห็นที่ 203 คุณ : jj [2005-06-06 18:48:13] [203.107.196.xxx]




สวัส ดีครับ คุณ วัน.ขอบคุณครับ ที่มาตอบปัญหา ที่เกา ไม่ถูกที่คัน เสียที...555 จริง เหรอ ครับ ที่เขา ว่า....เขาว่า.เสน่ห์..อะไร น่ะ...ผม ไมกลัว หร้อก. ทราบ ครับ...เพียงแต่..มาศึกษา เอาไว้ น่ะครับ..ไม่อยาก ให้ใคร มาหลอก เอาได้ ก็เท่านั้น.

ว่าแต่ ว่า คุณ วัน ทำ อะไร อร่อย เป็นพิเศษ ไหม ครับ..หรือ อร่อย ทุกอย่าง..

ความคิดเห็นที่ 204 คุณ : วัน [2005-06-07 00:20:50] [84.147.168.xxx]



สวัสดีรอบดึกคะ เพราะเพิ่งเลิกงานมานะ ไม่ทราบคันที่ใดกันคะ.เรื่องเสน่ห์นะเขาเรียกว่าเสน่ห์ปลายจวักคะ แฟนรักแฟรหลงทุกรายคะ มีฝีมือทำอาหารเสียอย่าง รับรองแฟนไปไหนไม่รอดจริงไหมคะ เรื่องอาหารไม่มีใครสามารถหลอกกันได้หรอกคะ ใครมีฝีมือก็แสดงกันออกมาได้เลย แล้วไม่ทราบว่ากลัวอะไรกันคะ อิอิอิ วันทำได้ทุกอย่างคะ ฝือมือพอตัวนะคะ รับรองแฟนไม่อด

ความคิดเห็นที่ 205 คุณ : jj [2005-06-07 14:39:23] [203.151.60.xxx]




อืมม์..อึ้ง น่ะครับ..คุณวัน แต่ก็ขอบคุณครับ ที่อุตส่าห์ .มาตอบกระทู้..เข้าใจครับว่า..รายการอาหาร ที่คุณวันแนะนำมาน่ะ..ดีครับ..เอาเป็นว่า..เดี๋ยว ว่างๆ จะมาให้เกาใหม่..ครับ

ความคิดเห็นที่ 206 คุณ : วัน [2005-06-07 23:56:53] [84.147.131.xxx]



แหมยังไม่ได้ทันตอบอะไรเลยคะ ถึง กับ อึ้งแล้วหรือคะ อิอิอิ มามะ จะเกาให้หายคันเลยคะ ...รับรองที่นี้มอบแต่สิ่งดีๆให้คะ.....

ความคิดเห็นที่ 207 คุณ : วัน [2005-06-08 23:05:22] [84.147.158.xxx]



สงสัยจะโดดน็อคไปเสียแล้วมั้งคะหรือไม่ก็คงจะยุ่งหัวฟูอีกตามเคย อย่างไรก็ตั้งหลักให้ดีก่อนเข้ามาคะ..อิอิอิ

ความคิดเห็นที่ 208 คุณ : jj [2005-06-09 06:30:54] [203.151.60.xxx]




สวัสดีครับ คุณวัน ความจริงก็ ไม่ได้อึ้งมาก นักรอกครับ...เพียงแต่วันสองวันนี้อาจจะยุ่งสักหน่อยเลยเข้ามาดูกระทู้เฉยๆ น่ะครับ..แต่ไม่ได้ตอบอะไร...กว่าจะเปิดขึ้นมาได้.วันสองวันนี่..นานมากน่ะครับ คุณวัน...ไม่รู้เป็นอะไร...หลัก ผมตั้งดีอยู่แล้ว ครับ เกาะทุกวัน...555.. อาหารแต่ล่ะอย่างที่คุณวันนำมาเสนอในกระทู้นั้นล้วนเป็นสิ่งที่..น่าสนใจ...ครับ...เพียงแต่ อยากมาอ่านดูลายละเอียด..ให้เยอะๆ หน่อย..เพราะแต่ละอย่างมันไม่มีสูตรตายตัว ครับ...มันคงดิ้นได้ น่ะครับ คุณ วัน..อ้อ ..ขอบคุณ น่ะครับ มี มาสะกิด..มาเกา..ให้...หาย คัน..อิอิ

ความคิดเห็นที่ 209 คุณ : วัน [2005-06-09 09:38:56] [84.147.158.xxx]



สวัสดีคะ...ขนาดไม่อึ้งนะคะ..เห็นเงียบไปนะ..เป็นที่เน็ตช้าเปล่าคะ..ไม่ทราบว่าทุกวันนี้ต้องใช้หลังพะยูงในการเดินกลัวล้มหรือคะ...อาหารทุกอย่างมันไม่มีสูตรตายตัวคะขึ้นอยู่กับคนทานว่าชอบทานรสชาดแบบไหนไงคะ...เรื่องสะกิดให้คันเล่นขอให้บอกคะ..ถนัดนักละ..ทำให้คนคันมานักต่อนักแล้วคะ ..

ความคิดเห็นที่ 210 คุณ : jj [2005-06-09 17:17:59] [203.151.60.xxx]




สวัสดีครับ คุณ วันมาอีกแล้ว ..หลังจากที่ไปทาน..อาหารว่างมา.(ไข่).. วันนี้..เอาเป็นว่าวันนี้มาให้กำลังใจ คุณ วันก็แล้ว กันครับ..ขอให้คุณวันมีสุขภาพดี...นานๆ มาทำกระทู้...อีกเยอะๆ อ่ะครับ..

ความคิดเห็นที่ 211 คุณ : วัน [2005-06-09 19:24:48] [84.147.154.xxx]



เลิกงานก็รีบมาตอบกระทู้เลยคะวันนี้ ..แปลกจังทานไข่เป็นอาหารว่าง ท่าทางคงจะอร่อยสิคะ ...แต่ขอเตือนอยู่อย่างคะ..เวลาทานต้องรีบดื่มน้ำตามนะ..ไม่นั้นจะติดคอเอาได้คะ ...เตือนเพราะเป็นห่วงนะคะ...ต้องขอขอบคุณในคำอวยพรคะ ถือว่าเป็นของขวัญในวันเกิดเลยคะ...จะจะพยายามมาทำกระทู้เรื่อยๆคะ

ความคิดเห็นที่ 212 คุณ : วัน [2005-06-09 23:49:32] [84.147.154.xxx]




ขอแนะนำเมนูง่ายๆ อย่าง “ไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ” ที่วิธีทำไม่ยากจนเกินไป แถมรสชาติก็ยังน่าจะถูกใจใครหลายๆ คนอีกด้วย

สำหรับส่วนผสมไข่เยี่ยวม้ากระเพรากรอบก็มี

ไข่เยี่ยวม้า 1 ลูก
หมูสับ 1/2 ขีด
พริกสด 2-3 เม็ด
กระเทียม 3-4 กลีบ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ
ใบกะเพราเด็ดเป็นใบๆ ใส่ตามที่ต้องการ (ใช้ผัดและทอดกรอบ)
เห็ดฟาง ถั่วฝักยาว ดอกกะหล่ำ แครอท ข้าวโพดอ่อน หั่นเป็นชิ้นๆ ปริมาณตามชอบใจ
น้ำปลา น้ำตาล ซอสปรุงรส ปริมาณตามความชอบ

เมื่อเตรียมส่วนผสมครบครัน ก็ให้นำไข่เยี่ยวม้ามาผ่าเป็น 4 ซีก ไปทอดจนกรอบแล้วพักเอาไว้ก่อน จากนั้นเอาหมูสับมาผัดกับเครื่องกะเพราอันได้แก่ใบกะเพรา (อย่าลืมแบ่งไว้ทำกะเพรากรอบด้วยล่ะ) พริกสด และกระเทียมสับ เพิ่มความสีสันความอร่อยและคุณค่าอาหารด้วยแครอท ข้าวโพดอ่อน กะหล่ำดอก ถั่วฝักยาวและเห็ดฟาง ปรุงรสด้วยเครื่องปรุงจนอร่อยถูกใจ

ครั้นเสร็จสรรพนำมาราดบนไข่เยี่ยวม้าทอด แต่ยังไม่เสร็จแค่นั้น อย่าลืมเอาใบกะเพราะที่แบ่งไว้มาทอดกับน้ำมันร้อนๆ จนได้กะเพรากรอบน่ากินมาโรยหน้ากะเพราไข่เยี่ยวม้าจานอร่อยนี้ด้วย

ความอร่อยของผัดกะเพราที่ทุกคนคุ้นเคย ผสมกับรสชาติมันๆ ของไข่เยี่ยวม้าทอด ในเมนูไข่เยี่ยวม้ากะเพรากรอบ




ความคิดเห็นที่ 213 คุณ : วัน [2005-06-09 23:51:33] [84.147.154.xxx]






ความคิดเห็นที่ 214 คุณ : วัน [2005-06-10 06:52:05] [84.147.154.xxx]





กับแกล้ม

--------------------------------------------------------------------------------

กับแกล้ม คืออาหารกินแกล้มเหล้า ลักษณะของอาหารต้องกินได้ง่าย กินได้เรื่อยๆ โดยรสชาติอาหารไม่เปลี่ยน อาหารต้องมีรสชาติจัดจ้านจากความเผ็ดร้อนของพริก รสออกเปรี้ยว เค็มกลมกล่อม ถึงเครื่องปรุง เช่นอาหารประเภทต้มยำ ต้มแซบ ยำ พล่า อาหารทอด เป็นต้น
การทำกับแกล้มให้ได้รสชาติจัดจ้านถึงใจนั้น เครื่องปรุงต้องเลือกสรรอย่างดี พริกเป็นเครื่องปรุงสำคัญที่ให้ความเผ็ด ให้เลือกใช้พริกขี้หนูสวนเม็ดเล็ก บุบทั้งก้านใส่ในอาหารจะช่วยเพิ่มกลิ่นหอม ถ้าเป็นต้มแซบแบบอีสานใช้พริกหอมหรือเรียกทั่วไปว่าพริกกะเหรี่ยง โดยให้นำพริกไปคั่วพอสุกพร้อมกับกระเทียม กระเทียม ให้เลือกใช้กระเทียมไทยกลีบเล็กซึ่งจะให้กลิ่นหอมเป็นพิเศษ ต้มแซบจะมีความเผ็ดร้อนยิ่งขึ้น ถ้าอาหารสูตรใดใส่พริกชี้ฟ้า ให้เลือกใช้พริกชี้ฟ้าเหลือง กลิ่นจะหอมกว่าพริกชี้ฟ้าแดง และพริกไทยอ่อน เป็นพริกอีกชนิดที่ให้ความเผ็ดร้อนเป็นพิเศษ ต้องเด็ดออกเป็นเม็ดๆ แล้วบุบใส่ในอาหาร กลิ่นของพริกไทยจะออกมามากยิ่งขึ้น พริกชนิดต่างๆ ต้องบุบหรือโขลกแล้วปรุงอาหารทันที จะให้กลิ่นหอมมากกว่าที่จะบุบเตรียมไว้ เมื่อใส่ในต้มชนิดต่างๆ พอให้กลิ่นรสของพริกออกเท่านั้น และอย่าต้มนานเกินไป พริกจะไม่มีกลิ่นหอม

ไม่เพียงแต่พริกเท่านั้นที่ให้ความเผ็ดร้อน ผักสมุนไพรบางตัว เช่น กะเพรา โหระพา ใบแมงลัก ก็ให้ทั้งกลิ่นรสและเสริมความเผ็ดร้อนให้แก่อาหาร กะเพราใส่ในต้มโป๊ะแตก ต้มยำ ผัดกะเพราชนิดต่างๆ กะเพรามีด้วยกัน 2 ชนิด คือ กะเพราขาวกับกะเพราแดง กะเพราแดงก้านมีสีแดง และให้กลิ่นรสความเผ็ดร้อนมากกว่ากะเพราขาว ส่วนโหระพาและใบแมงลัก ใส่ในต้มแซบแบบอีสาน เป็นต้น ผักสมุนไพรเหล่านี้ถ้าใส่ในอาหารประเภทต้ม น้ำจะต้องเดือดจัดก่อนจึงใส่กลิ่นรสของผักจะออกมาเต็มที่ ผักมีสีเขียวน่ารับประทาน

เรื่องของรสเปรี้ยว เค็ม ต้องมีความกลมกล่อม โดยใส่ในสัดส่วนพอดี การใส่มะนาว หรือน้ำมะขามเปียกกับน้ำปลา ต้องใส่ในปริมาณที่เท่าๆ กัน สูตรใดใส่น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ ต้องใส่น้ำมะนาว 2-3 ช้อนโต๊ะ ถ้ามากกว่านี้รสจะเปรี้ยวเกินไป เพื่อให้รสชาติมีความกลมกล่อมมากยิ่งขึ้นให้ตัดรสด้วยน้ำตาลเล็กน้อย ใช้น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปีบขึ้นอยู่กับว่าเป็นอาหารชนิดใด

วิธีการเลือกมะนาวที่นำมาคั้นน้ำนั้น ต้องเลือกมะนาวเปลือกเขียว น้ำมะนาวจะมีกลิ่นหอม ที่สำคัญเมื่อปรุงจึงจะคั้นน้ำ (ถ้าคั้นน้ำมะนาวทิ้งไว้ กลิ่น รสของน้ำมะนาวจะเปลี่ยนไป) และเวลาคั้นอย่าบีบคั้นแรงเกินไป เพราะน้ำมะนาวจะมีรสขมของน้ำมันหอมระเหยที่ผิวเปลือกมะนาวลงมาปนด้วยนั่นเอง สำหรับน้ำมะขามเปียกต้องมีสีน้ำตาล ไม่ดำคล้ำ ก่อนคั้นต้องล้างมะขามเปียกเอาสิ่งสกปรกออกก่อนหนึ่งครั้ง และเพื่อความสะดวก เมื่อคั้นแล้วเอาเมล็ดออก เอาน้ำมะขามเปียกใส่หม้อขึ้นตั้งไฟพอร้อน ทิ้งให้เย็นจึงเก็บใส่ขวดโหลปิดฝาแช่ ตู้เย็นจะเก็บได้นานวันไม่ต้องมาเสียเวลาคั้นเมื่อจะปรุงอาหารในแต่ละครั้ง สีและรสของน้ำมะขามเปียกก็คงเดิมไม่เปลี่ยนแปลง น้ำปลาต้องเลือกน้ำปลาอย่างดี กลิ่นจะหอม สีไม่ดำคล้ำ รสไม่เค็มจัด

สำหรับเครื่องปรุงที่ช่วยเสริมรสชาติ ดับกลิ่นคาวเนื้อสัตว์ในจานอาหารกับแกล้ม ประเภทต้มแซบ ต้มยำ โป๊ะแตกได้อย่างดี มีพวกเครื่องเทศสดต่างๆ เช่น ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ซึ่งต้องล้างให้สะอาดก่อน ตะไคร้ ข่า ต้องทุบ ใบมะกรูดฉีกต่อเมื่อจะปรุง และที่สำคัญต้องใส่ตอนน้ำเดือดจัด กลิ่นและรสจะออกมาได้ดี

เมื่อรู้ถึงการใช้เครื่องปรุงต่างๆ แล้ว ขั้นตอนแรกของการปรุงอาหารก็สำคัญ เช่น การทำยำชนิดต่างๆ ควรเตรียมเครื่องเคราและน้ำยำไว้ให้พร้อม เวลาจะรับประทานจึงนำมาคลุกเคล้าให้เข้ากัน ส่วนต้มยำ ต้มแซบ ให้ปรุงกันทีละถ้วย หรือปรุงในหม้อเล็กๆ รสชาติของอาหารจะเข้มข้นถึงใจ ส่วนอาหารทอดก็ให้ทอดใหม่ๆ ร้อนๆ จึงจะมีความกรอบอร่อยกว่าการที่ทอดทิ้งไว้แล้วมาอุ่นทีหลัง ซึ่งจะทำให้ของทอดนั้นๆ อมน้ำมันมากยิ่งขึ้น น้ำมันที่ใช้ทอดต้องเป็นน้ำมันที่ใหม่ ไม่ควรใช้น้ำมันทอดเกิน 2 ครั้ง

ความคิดเห็นที่ 215 คุณ : วัน [2005-06-10 06:53:29] [84.147.154.xxx]





ผัดไก่ร้อนแรง
เครื่องปรุง

เนื้ออกไก่ 200 กรัม
ถั่วฝักยาว 5 ฝัก
โหระพาเด็ดเป็นใบ 1/4 ถ้วย
เม็ดพริกไทยอ่อน 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลปีบ 1 ช้อนชา
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ


เครื่องแกง

พริกชี้ฟ้าเหลือง 5 เม็ด
พริกขี้หนูสวน 10 เม็ด
ตะไคร้ซอย 3 ช้อนโต๊ะ
ข่าหั่นชิ้นเล็ก 1 ช้อนชา
ผิวมะกรูดหั่นชิ้นเล็ก 1 ช้อนชา
หอมแดงซอย 3 หัว
กระเทียม 10 กลีบ
ลูกผักชีคั่ว 1 ช้อนชา
ยี่หร่าคั่ว 1 ช้อนชา


โขลกเครื่องแกงทั้งหมดเข้าด้วยกันให้ละเอียด

วิธีทำ

1. ล้างเนื้อไก่ ซับน้ำให้แห้ง หั่นชิ้นพอคำ พักไว้
2. ล้างถั่วฝักยาว ซอยเป็นชิ้นเล็ก พักไว้ั
3. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง พอน้ำมันร้อนใส่เครื่องแกงที่โขลก ผัดพอหอม ใส่เนื้อไก่ ผัดพอไก่สุก
4. ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำตาล บุบเม็ดพริกไทยใส่ ใส่น้ำซุป ผัดพอทั่ว ใส่ใบโหระพา ผัดพอทั่ว ตักใส่จาน เสิร์ฟ



ความคิดเห็นที่ 216 คุณ : วัน [2005-06-10 06:59:43] [84.147.154.xxx]





กุ้งย่างยำรสเด็ด
เครื่องปรุง

กุ้งก้ามกราม 5 ตัว
มะม่วงเปรี้ยวดิบ 1 ลูก
พริกขี้หนูซอย 2 ช้อนชา
ผักชีเด็ดเป็นใบ 1 ต้น
หอมแดงซอย 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 1/4 ถ้วย
น้ำมะนาว 3 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ล้างกุ้ง พักให้สะเด็ดน้ำ ผ่าหลังกุ้งตามยาวทั้งเปลือก นำไปย่างไฟกลางพอสุกเหลือง จัดใส่จาน พักไว้
2. ล้างมะม่วง ปอกเปลือกสับแล้วซอยเป็นชิ้นตามยาว ทำจนหมด พักไว้
3. ผสมน้ำปลา น้ำตาล น้ำมะนาว คนให้น้ำตาลละลาย เป็นน้ำยำ
4. เวลาจะเสิร์ฟ ใส่มะม่วงซอย พริกขี้หนู หอมแดงลงในน้ำยำในข้อ 3 คนพอทั่ว ราดบนตัวกุ้ง ดรยหน้าด้วยใบผักชี เสิร์ฟ



ความคิดเห็นที่ 217 คุณ : วัน [2005-06-10 07:09:14] [84.147.154.xxx]




กระทู้ที่ 215เป็นอาหารชื่อ ผัดไก่ร้อนแรง คะ

กระทู้ที่216 เป็นอาหารชื่อ กุ้งย่างยำรสเด็ด คะ

โพสส์แล้วรูปไม่ตามมาเลย เซ็งอ่ะ


ความคิดเห็นที่ 218 คุณ : วัน [2005-06-10 07:10:48] [84.147.154.xxx]




ต้มแซบหมู

เครื่องปรุง

เนื้อหมูปนเอ็น 200 กรัม
ตะไคร้ 2 ต้น
ใบมะกรูด 5 ใบ
ข่าอ่อน 5 แว่น
ผักชีฝรั่งหั่นหยาบ 2 ต้น
พริกขี้หนู 20 เม็ด
ข้าวคั่วโขลก 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมะนาว 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำซุป 3 ถ้วย


วิธีทำ

1. ล้างเนื้อหมู หั่นชิ้นพอคำ พักไว้
2. ล้างตะไคร้ ใบมะกรูด ข่าอ่อน แล้วทุบตะไคร้หั่นเป็นท่อน ข่าหั่นเป็นแว่น
3. ใส่น้ำซุปลงในหม้อ ตั้งไฟกลางพอเดือด ใส่ตะไคร้ ข่าอ่อน ฉีกใบมะกรูดใส่ เดือดอีกครั้งลดไฟอ่อน
4. ใส่เนื้อหมู เคี่ยวพอน้ำเริ่มงวด ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำมะนาว ใส่พริกขี้หนู ข้าวคั่ว ผักชีฝรั่ง เดือดอีกครั้ง ยกลง เสิร์ฟร้อนๆ

หมายเหตุ เนื้อหมูปนเอ็น เป็นเนื้อหมูส่วนข้อกระดูก มีลักษณะเป็นก้อนกลม



ความคิดเห็นที่ 219 คุณ : วัน [2005-06-10 07:15:11] [84.147.154.xxx]




รูป ต้มแซปหมู

ความคิดเห็นที่ 220 คุณ : วัน [2005-06-10 07:19:50] [84.147.154.xxx]





ตุ๋นอร่อย

--------------------------------------------------------------------------------

ตุ๋น การต้มเคี่ยวด้วยไฟอ่อนจนอาหารสุกแบบเปื่อยนุ่ม น้ำซุปมีรสชาติกลมกล่อม รับประทานกันร้อนๆ วิธีการตุ๋นทำได้ 2 วิธีคือ ตุ๋นด้วยการนำหม้อตั้งไฟโดยตรง กับการตุ๋นในน้ำเดือด อาจใช้ลังถึง หรือหม้อตุ๋นสองชั้นก็ได้
อาหารที่นิยมใช้วิธีการตุ๋นนั้น ก็มีพวกเนื้อหมู เนื้อวัว ซึ่งเป็นส่วนที่มีเอ็นและพังผืดติด จึงทำให้เนื้อมีความเหนียว ไก่ ก็ต้องเป็นส่วนข้อตีน ซึ่งมีแต่หนังกับเอ็น หรือเป็นไก่ทั้งตัว เป็ดทั้งตัว และปลาทั้งตัว นิยมตุ๋นรวมกับเครื่องยาจีน ตุ๋น เป็นอาหารประเภทซุปชนิดหนึ่ง มีทั้งตุ๋นน้ำใส และตุ๋นน้ำข้น ซึ่งอาจข้นด้วยแป้ง หรือข้นด้วยตัวของมัน อย่างเช่น ขาหมู ซึ่งเป็นส่วนที่มีเอ็นของเนื้อสัตว์จะมีเพ็คตินมาก เวลาต้มเคี่ยวนานๆ จะทำให้อาหารข้น

ภาชนะที่ใช้ในการตุ๋นใช้ได้ตั้งแต่หม้ออะลูมิเนียม หม้อสแตนเลส ต่อมาได้มีการผลิตหม้อตุ๋นไฟฟ้า มาช่วยอำนวยความสะดวก เพื่อตุ๋นโดยไม่ต้องคอยเฝ้า เพียงแต่ตั้งเวลาไว้ และเครื่องปรุงยังซึมเข้าเนื้อได้ดี ส่วนหม้ออัดความดัน จะช่วยให้อาหารเปื่อยนุ่มเร็ว และยังรักษาคุณค่าทางอาหารให้คงอยู่ เพราะใช้เวลาในการตุ๋นสั้น

วิธีตุ๋นให้เนื้อเปื่อยนุ่ม รสชาติเข้าเนื้อดี ต้องใช้ไฟอ่อน เนื้อต้องหั่นตามขวางของเส้นกล้ามเนื้อ เพราะจะทำให้เนื้อไม่เหนียว และเครื่องปรุงซึมเข้าเนื้อได้เร็วขึ้น เวลาตุ๋นต้องใส่น้ำและเครื่องปรุงต่างๆ ลงไปในหม้อก่อน เมื่อเดือดจึงใส่เนื้อสัตว์ เคี่ยวสักครู่ พอเนื้อสุก จึงใส่ผักที่ต้องการ เวลาเคี่ยวด้วยไฟอ่อนต้องปิดฝาเพื่อให้ความร้อนในหม้อทำให้อาหารสุก และรักษาคุณค่าทางอาหาร

การตุ๋นต้องมีเคล็ดลับ เช่น ปลาตุ๋นหอมใหญ่ ปลาช่อนแดดเดียว ต้องทอดก่อนจึงตุ๋น เนื้อปลาจะนุ่มและมีกลิ่นหอมยิ่งขึ้น ไม่มีกลิ่นคาว หมูตุ๋นพริกไทยดำ น้ำต้องเดือดก่อนจึงใส่เนื้อหมู มิฉะนั้นจะมีกลิ่นคาว และต้องลดไฟอ่อนเนื้อหมูจึงจะนุ่ม เครื่องปรุงเข้าเนื้อ ทำให้เนื้อหมูมีรส ขณะตุ๋นต้องลดไฟพอให้เดือดปุดๆ อย่าให้เดือดพล่าน ปีกไก่ตุ๋นหอมใหญ่ เป็นอาหารที่ข้นด้วยแป้ง มีกลิ่นหอมจากเมล็ดสน (juniper) เคล็ดลับการตุ๋นที่ทำให้ปีกไก่นุ่ม ต้องใช้หม้อหนาๆ ที่ฝาปิดสนิท ใช้ไฟอ่อนๆ ไก่จึงจะนุ่ม และเมื่อจะกินก็เพียงแต่นำมาอุ่น รสชาติและกลิ่นก็ยังเหมือนเดิม

ความคิดเห็นที่ 221 คุณ : วัน [2005-06-10 07:22:03] [84.147.154.xxx]




หมูตุ๋นพริกไทยดำ

เครื่องปรุง

เนื้อหมูสันใน 500 กรัม
แครอท 1 หัว
เซลเลอรี่ 1 ต้น
หอมใหญ่ 2 หัว
พริกไทยดำโขลกหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
ใบกระวาน 2 ใบ
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
แป้งสาลีผสมน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
มัสตาร์ดผง 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา
น้ำซุปไก่ 2 ถ้วย
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ล้างเนื้อหมู หั่นชิ้นขนาด 2X2 นิ้ว พักไว้ เคล้าเนื้อหมูกับน้ำมัน พริกไทยดำ ให้เข้ากัน หมักไว้นาน 30 นาที
2. ปอกเปลือกหอมใหญ่ผ่า 4 แล้วจึงหั่นครึ่งให้ได้ 8 ชิ้นต่อหอมใหญ่ 1 หัว
3. ปอกเปลือกแครอทหั่นเป็นแว่นเฉียง
4. ล้างเซลเลอรี่หั่นตามขวางหนา 1 ซม. พักไว้
5. ใส่น้ำซุปลงในหม้อ ตั้งไฟพอเดือด ใส่ใบกระวาน ซอสปรุงรส เกลือ มัสตาร์ด (ละลายมัสตาร์ดกับน้ำก่อนจึงใส่) ใส่เนื้อหมูที่หมักในข้อ 1 ปิดฝา ต้มเคี่ยวไฟอ่อน พอเนื้อหมูสุก ใส่หอมใหญ่ แครอท เซลเลอรี่ พอผักสุกนุ่ม ใส่แป้งสาลีผสมน้ำ คนให้เข้ากันจนข้นเหนียว ปิดไฟ ยกลง

หมายเหตุ มัสตาร์ดมี 2 ชนิด คือ ชนิดผงและชนิดผสม มัสตาร์ดชนิดผงจะมีกลิ่นแรงและรสเผ็ดกว่าชนิดผสม ชนิดผสมจะผสมน้ำส้มสายชูและน้ำตาล

ความคิดเห็นที่ 222 คุณ : วัน [2005-06-10 07:23:09] [84.147.154.xxx]




ปีกไก่ตุ๋นหอมใหญ่

เครื่องปรุง

ปีกไก่ตรงส่วนกลาง 5 ชิ้น
เบคอนหั่นชิ้นเล็ก 2 แผ่น
เห็ดฟางดอกตูม 5 ดอก
หอมใหญ่หัวเล็กปอกเปลือก 5 หัว
ผักชีฝรั่ง (parsley) สับหยาบ 1 ช้อนโต๊ะ
ขนมปัง 2 แผ่น
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลสีรำ 1 ช้อนชา
แป้งสาลีผสมน้ำ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำเกรวี่ผัก 1 ถ้วย
น้ำซุป 1 ถ้วย
เนย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับทอด


เครื่องปรุงน้ำเกรวี่

หอมใหญ่สับหยาบ 1 หัว
แครอทสับหยาบ 1 หัว
กระเทียมสับ 1 ช้อนโต๊ะ
เมล็ดสน (juniper) 10 เม็ด
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ไวน์แดง 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำ 2 ถ้วย
เนย 1 ช้อนโต๊ะ


ผัดเนยกับกระเทียมพอหอม ใส่หอมใหญ่ แครอท ผัดพอผักเริ่มไหม้ ใส่น้ำ ไวน์แดง เมล็ดสน พริกไทย เกลือ เคี่ยวไฟอ่อนจนน้ำงวดลงเหลือ 1 ถ้วย กรองเอาแต่น้ำ

วิธีทำ

1. ทอดปีกไก่ในน้ำมันร้อน พอสุกเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน ทอดหอมใหญ่ต่อ พอสุกใส พักไว้
2. ใส่เบคอนลงในกระทะก้นแบน ตั้งไฟกลาง ทอดให้กรอบ
3. ใส่เนยลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง พอเนยละลาย หั่นขนมปังเป็นรูปสามเหลี่ยมเล็ก 1 แผ่น หั่น 8 ชิ้น ทอดให้เหลือง
4. ใส่น้ำเกรวี่ น้ำซุปลงในหม้อ พอเดือดใส่ปีกไก่ทอด ตั้งไฟเคี่ยวจนปีกไก่สุกนุ่ม ใส่หอมใหญ่ เห็ดฟาง
5. ปรุงรสด้วยน้ำตาล เกลือ พริกไทย คนให้เข้ากัน ใส่แป้งสาลีผสมน้ำ คนให้เข้ากันพอมีลักษณะข้นเหนียว ตักใส่ถ้วย โรยหน้าด้วยเบคอน ขนมปังทอด และผักชีฝรั่ง เสิร์ฟร้อนๆ

หมายเหตุ

- การทอดเบคอนไม่ต้องใส่น้ำมันหรือเนย เพราะเมื่อทอด น้ำมันจากเบคอนจะออกมา ทอดอย่างใจเย็นเช่นเดียวกับทอดขนมปังด้วยเนย

- เมล็ดสน (juniper) มาจากต้นสนจำพวก juniperus ให้ผลสีม่วง ใช้แต่งกลิ่นในเหล้ายิน

- น้ำตาลสีรำ หรือที่รู้จักกันทั่วไปว่า "น้ำตาลทรายแดง" เป็นน้ำตาลที่ไม่ผ่านการฟอกสี สีจะออกน้ำตาลเข้มเหมือนสีกาแฟคั่ว จะรวมตัวเกาะกันเป็นก้อน กลิ่นหอมเหมือนน้ำตาลไหม้ และให้สีเมื่อทำอาหาร

ความคิดเห็นที่ 223 คุณ : วัน [2005-06-10 07:24:01] [84.147.154.xxx]





ปลาตุ๋นหอมใหญ่
เครื่องปรุง

เนื้อปลาช่อนแดดเดียว 300 กรัม
หอมใหญ่สีม่วงหั่นเป็นเสี้ยว 1 หัว
แครอทหั่นแว่น 1/2 หัว
ขิงแก่หั่นแว่น 5 แว่น
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
ใบกระวาน 3 ใบ
น้ำซุปไก่ 2 1/2 ถ้วย
น้ำมันพืชสำหรับทอด 1 ถ้วย


วิธีทำ

1. ล้างปลาแห้ง หั่นชิ้นใหญ่ พักให้สะเด็ดน้ำ ทอดในน้ำมันร้อน พอสุกเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
2. ต้มน้ำซุปให้เดือด ใส่ปลาแห้ง แครอท ใบกระวาน ขิง ต้มไฟอ่อนพอปลานุ่ม ใส่หอมใหญ่ สักครู่ ยกลง
3. ตักใส่ชาม โรยพริกไทย เสิร์ฟร้อนๆ

หมายเหตุ ปลาช่อนแดดเดียว เลือกปลาที่แห้งแต่ไม่แข็ง ไม่มีกลิ่นเหม็น สีของเนื้อปลาไม่ซีด และเป็นสีของเนื้อปลาตามธรรมชาติ

ความคิดเห็นที่ 224 คุณ : วัน [2005-06-10 07:25:40] [84.147.154.xxx]





ข้าวผัดจานอร่อย

ข้าวไม่เพียงนำมาหุงเป็นข้าวสวยกินกับอาหารจานอร่อยได้เท่านั้น ยังสามารถนำข้าวสวยมาทำอาหารจานอื่นได้อีก โดยมีความหลากหลายในเรื่องรสชาติและเนื้อสัมผัส อย่างทำข้าวผัดอาหารจานด่วน ที่ทำและปรุงได้อย่างรวดเร็วทันใจ จะรับประทานเป็นอาหารมื้อเช้า มื้อกลางวัน หรือมื้อเย็นก็ได้ กินพร้อมกับแกงจืดอีกสักถ้วย และต่อด้วยขนมหวาน ก็อิ่มอร่อยอย่างมีคุณค่าครบถ้วน
ข้าวผัดมีหลากหลายจานให้เลือกทำ มีทั้งข้าวผัดที่ปรุงขึ้นมาใหม่ หรือข้าวผัดที่นำเอาข้าวสวยที่เหลือมาผัดหรือคลุกเคล้ากับน้ำพริก ผัดผัก ดัดแปลงจนได้ข้าวผัดจานอร่อยขึ้นมา ซึ่งเป็นวิธีที่ใช้ข้าวเหลือให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ข้าวผัดมีทั้งแบบรสชาติไทยๆ และข้าวผัดรสชาติฝรั่ง ทั้งข้าวผัดอเมริกัน ข้าวผัดสเปน ข้าวผัดอินโดนีเซียให้เลือกทำกัน รสชาติก็จะแตกต่างกัน
การทำข้าวผัดให้อร่อย เริ่มจากข้าวสวยที่ผัดต้องหุงให้เป็นเม็ดสวย วิธีการหุงข้าวก็มีเคล็ดลับ การหุงข้าวสารใหม่ต้องใส่น้ำน้อย เพราะข้าวยังมีความชื้นอยู่มาก แต่ถ้าเป็นข้าวเก่า ต้องใส่น้ำให้ท่วมข้าวหนึ่งองคุลี หุงแบบไม่เช็ดน้ำ หรือนึ่ง ก็จะได้ข้าวสวยที่เป็นเม็ดสวย มีคุณค่าสูง เมื่อสุกใหม่ร้อนๆ ต้องเกลี่ยใส่ถาดให้ข้าวเย็นก่อนจึงนำมาผัด ข้าวจะไม่เกาะตัวเป็นก้อน แต่ถ้าข้าวผัดที่ทำจากข้าวกล้องนั้น มีวิธีหุงคือต้องใส่น้ำมาก เพราะข้าวกล้องดูดน้ำได้ดี แต่เมื่อสุก ทิ้งให้เย็นต้องผัดเลย ไม่ควรใช้ข้าวกล้องที่ทิ้งไว้นานมาผัด เพราะข้าวสวยที่หุงจากข้าวกล้องจะบูดง่ายกว่าข้าวสวยที่หุงจากขัาวขาว
เมื่อได้ข้าวสวยที่เหมาะในการทำข้าวผัดแล้ว ทำอย่างไรจึงจะผัดให้ข้าวเป็นเงาสวย น่ากิน สิ่งสำคัญอยู่ที่ไฟ ต้องใช้ไฟกลางในการเจียวกระเทียมจนเหลือง ใส่เครื่องปรุงที่เป็นเนื้อสัตว์ ผัดจนสุกก่อน จึงใส่ข้าวผัดให้ทั่ว ถ้าข้าวผัดชนิดใดมีส่วนผสมของไข่ ต้องใส่ไข่ทีหลังข้าว พอผัดข้าวจนทั่ว เกลี่ยข้าวไว้อีกด้านหนึ่ง ต่อยไข่ใส่ กลบข้าวบนไข่ พอสุกจึงค่อยผัดไข่ ในขั้นตอนนี้ต้องผัดเร็วๆ ไข่จะเกาะเม็ดข้าวดี และไม่แฉะ เช่น ข้าวผัดปู ข้าวผัดทะเล ข้าวผัดกุ้ง ข้าวผัดหมู ในกรณีที่เป็นข้าวผัดที่นำน้ำพริกมาประยุกต์ คลุกน้ำพริกกับข้าวให้ทั่วก่อน จึงค่อยผัดทีหลังจะทำให้ส่วนผสมเข้ากันได้ดี
กระทะเป็นอุปกรณ์ที่สำคัญในการทำข้าวผัดเลยทีเดียว กระทะเหล็กรับความร้อนได้เร็วและดี แต่ข้าวจะติดกระทะ ต้องผัดเร็วๆ เหมาะสำหรับแม่ครัวที่ชำนาญในการผัดขัาว เพราะข้าวผัดที่ได้จะมีกลิ่นหอม ถ้าเป็นแม่ครัวมื่อใหม่ต้องใช้กระทะเทฟล่อน แต่กลิ่นหอมจะสู้ข้าวที่ผัดจากกระทะอะลูมิเนียม กระทะเหล็ก หรือกระทะเหล็กเคลือบไม่ได้ ตะหลิวก็เช่นกันต้องเลือกด้ามที่ติดแน่น ทนความร้อน

ความคิดเห็นที่ 225 คุณ : วัน [2005-06-10 07:26:46] [84.147.154.xxx]




ข้าวผัดทะเลรวม

เครื่องปรุง

ข้าวสวย 2 ถ้วย
เนื้อปูนึ่งสุก 1/4 ถ้วย
ปลาหมึกหั่นเป็นแว่น 1 ตัว
กุ้งแชบ๊วยแกะเปลือก 100 กรัม
เนื้อหอยแมลงภู่ 100 กรัม
ไข่ไก่ 1 ฟอง
มะเขือเทศหั่นชิ้น 1 ลูก
หอมใหญ่หั่นเสี้ยว 1/2 หัว
ต้นหอมซอย 1/2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีเด็ดเป็นใบ 1 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับ 2 ช้อนชา
ต้นหอม 2 ต้น
แตงกวา 1 ลูก
พริกชี้ฟ้าแดง 1 เม็ด
พริกไทยป่น 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
ซอสปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 4 ช้อนโต๊ะ


1. ใส่น้ำมันลงในกระทะ 3 ช้อนโต๊ะ ตั้งไฟ ใส่กระเทียม เจียวให้เหลืองหอม ใส่ปลาหมึก กุ้ง หอยแมลงภู่ ผัดพอสุก ใส่ข้าว ผัดพอทั่ว
2. กันข้าวที่ผัดไว้ด้านข้างกระทะ ใส่น้ำมันที่เหลือ ต่อยไข่ใส่ กลบข้าวมาทับไข่ ทิ้งไว้สักครู่ให้ไข่สุก ผัดเร็วๆให้ทั่ว ใส่เนื้อปู ผัดพอทั่ว
3. ใส่มะเขือเทศ หอมใหญ่ ผัดพอสุก ปรุงรสด้วยพริกไทย น้ำตาล ซีอิ๊วขาว ซอสปรุงรส ผัดให้เข้ากันทั่ว ใส่ต้นหอมซอย ผัดพอทั่ว ตักใส่จาน แต่งด้วยผักชี พริกชี้ฟ้าแดง รับประทานกับต้นหอม แตงกวาหั่นชิ้น



ความคิดเห็นที่ 226 คุณ : วัน [2005-06-10 07:28:44] [84.147.154.xxx]




ข้าวผัดสเปน

เครื่องปรุง

ข้าวสวย 2 ถ้วย
ไส้กรอกหั่นท่อนบาก 3 ชิ้น
น่องไก่บาก 1 ชิ้น
กุ้งแชบ๊วยแกะเปลือก 3 ตัว
พริกหวานหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 1/4 ถ้วย
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย 1 เม็ด
ผักชีเด็ดเป็นใบ 1 ต้น
หอมใหญ่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 1/4 ถ้วย
กระเทียมสับ 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ซอสมะเขือเทศ 2-3 ช้อนชา
น้ำมันพืชสำหรับทอด



วิธีทำ

1. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง พอร้อนใส่น้องไก่ ทอดพอเหลือง ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน ใส่ไส้กรอกและกุ้งทอดต่อพอสุก ตักขึ้น พักไว้
2. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง พอร้อน ใส่กระเทียม เจียวพอเหลือง ใส่หอมใหญ่ พริกหวาน ผัดจวนสุก
3. ปรุงรสด้วยเกลือ ซอสมะเขือเทศ ใส่กุ้ง ไส้กรอก ผัดพอทั่ว ใส่ข่าว ผัดให้ทั่ว ปิดไฟ
4. ตักใส่จาน โรยพริกไทย ผักชี พริกชี้ฟ้าแดง วางน่องไก่ข้างๆ เสิร์ฟ



ความคิดเห็นที่ 227 คุณ : วัน [2005-06-10 07:32:13] [84.147.154.xxx]





ข้าวผัดอินโดนีเซีย
เครื่องปรุง

ข้าวสวย 1 ถ้วย
กุ้งแชบ๊วยแกะเปลือก 2 ตัว
ปลาหมึกบั้งหั่นชิ้นพอคำ 3 ชิ้น
เนื้อไก่หั่นชิ้นพอคำ 4 ชิ้น
หอมใหญ่สับ 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/4 ช้อนชา
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
ซอสปรุงรส 2 ช้อนชา
เนย 2 ช้อนโต๊ะ


เครื่องเคียง

ข้าวเกรียบทอด 3 ชิ้น
หมูสะเต๊ะ 2 ไม้


เครื่องปรุงอาจาด

แตงกวาหั่นบางๆ ตามขวาง 3 ช้อนโต๊ะ
หอมแดงซอย 1 หัว
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย 1 ช้อนชา
ผักชีเด็ดเป็นใบ 4 ใบ
น้ำส้มสายชู 1/4 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
เกลือป่น 1/2 ถ้วย

เคี่ยวน้ำตาล เกลือ น้ำส้มสายชูเข้าด้วยกัน ทิ้งไว้ให้เย็น ใส่แตงกวา หอมแดง พริกชี้ฟ้าแดงลงในถ้วย ใส่น้ำปรุงรสที่เย็นแล้ว ใส่ผักชี

วิธีทำ

1. ใส่เนยลงในกระทะ ตั้งไฟพอเนยละลาย ใส่หอมใหญ่ ผัดให้สุกใส
2. ใส่เนื้อไก ปลาหมึก กุ้ง ผัดพอสุก ใส่ข้าว ผัดให้ทั่ว
3. ปรุงรสด้วยเกลือ น้ำตาล ซอสปรุงรส ผัดพอทั่ว
4. ตักใส่จาน โรยพริกไทย รับประทานกับหมูสะเต๊ะ ข้าวเกรียบทอด อาจาด

ความคิดเห็นที่ 228 คุณ : วัน [2005-06-10 07:33:25] [84.147.154.xxx]





ข้าวผัดเผ็ดปลาฟู
เครื่องปรุง

ข้าวสวย 3 ถ้วย
ปลาดุกอุยย่าง 1 ตัว
น้ำพริกแกงเผ็ด 1 1/2 ช้อนโต๊ะ
ผิวมะกรูดหั่นละเอียด 1/2 ช้อนชา
กะปิ 1/2 ช้อนชา
เม็ดพริกไทยอ่อน 2 ช้อนโต๊ะ
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นฝอย 1 เม็ด
ใบมะกรูดหั่นฝอย 1 ช้อนโต๊ะ
โหระพาเด็ดเป็นใบ 2 ช่อ
น้ำตาลปีบ 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืชสำหรับทอด


วิธีทำ

1. โขลกผิวมะกรูด กะปิ น้ำพริกแกงเผ็ดเข้าด้วยกันให้ละเอียด
2. แกะเอาแต่เนื้อปลาดุกย่าง ใช้ส้อมยีเนื้อปลา ทอดเนื้อปลาในน้ำมันร้อนจนฟูและเหลืองกรอบ ตักขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน
3. ตักน้ำมันออกให้เหลือ 3 ช้อนโต๊ะ พอร้อนใส่น้ำพริกแกงที่โขลกในข้อ 1 ผัดให้หอม ใส่น้ำเล็กน้อย ใส่ข้าว ผัดให้ทั่ว
4. ปรุงรสด้วยน้ำตาล น้ำปลา ใส่ปลาฟูลงผัด (แบ่งเนื้อปลาไว้โรยหน้าบ้าง)
5. ตักใส่จาน โรยหน้าด้วยปลาดุกฟู เม็ดพริกไทยอ่อน ใบมะกรูด พริกชี้ฟ้าแดง ใบโหระพา เสิร์ฟ

ความคิดเห็นที่ 229 คุณ : วัน [2005-06-10 07:59:15] [84.147.154.xxx]





เคล็ดลับการหมักเนื้อกับอาหารรสเลิศ

--------------------------------------------------------------------------------

อาหารทำให้อร่อยได้ถึงเนื้อ ถึงรสชาติ บางครั้งก็ต้องใช้เวลากันหน่อย แต่ก็สามารถเตรียมบางขั้นตอนไว้ล่วงหน้าได้ เช่นนำเนื้อสัตว์หมักไว้ล่วงหน้า โดยหั่นเนื้อสัตว์เป็นชิ้นตามชนิดของอาหารที่จะปรุง แล้วนำมาคลุกเคล้ากับเครื่องปรุงรสต่างๆ หมักไว้ในตู้เย็นเก็บไว้ได้หลายวันเลยทีเดียว นี่ก็เป็นการย่นระยะเวลาในการปรุงไปได้มากสำหรับการทำอาหารในวันธรรมดา และในเรื่องความอร่อยไม่ต้องพูดถึงกันเลย อร่อยแน่ๆ เพราะรสชาติต่างๆ ของเครื่องปรุงจะเข้าเนื้อได้อย่างดี ส่วนเครื่องปรุงตัวอื่นนั้น เพียงแต่ซื้อมาใส่ตู้เย็น ตู้กับข้าว ไว้ให้ครบครันก็ปรุงอาหารจานอร่อยได้ในเวลาไม่กี่นาที ที่สำคัญอยู่ที่การหมักเนื้อต่างๆ นั่นเอง
อาหารจานที่ใช้เนื้อในการหมักก่อนปรุงอาหารก็มี อาหารทอด ผัด อบ ปิ้ง ย่าง ต้ม และนึ่ง แต่ที่นิยมกันมากก็คงจะเป็นอาหารอบ ย่าง ผัด ทอด ซึ่งเนื้อที่หมักในการปรุงอาหารแต่ละส่วนจะมีความนุ่มที่แตกต่างกันไป ถ้าส่วนใดมีไขมันแทรกในกล้ามเนื้อมากก็จะมีความนุ่มมากกว่าเนื้อส่วนที่ไม่มีไขมัน

การหมักเนื้อให้ได้รสชาติที่เข้าถึงเนื้อในและเนื้อมีความนุ่มเป็นพิเศษ ต้องใส่เครื่องปรุงต่างๆ หลายอย่าง เช่น ถ้าอาหารจานใดใช้เนื้อหมูที่ไม่ติดมันต้องใช้น้ำมันลงไปด้วย เพราะไขมันทำให้เกิดความนุ่มและเพิ่มรสชาติอาหาร หรือใส่ไข่ลงไปสักฟองก็ยิ่งดี อย่างเช่น เนื้อหมูที่ใส่ราดหน้า หมูที่ทำหมูจุ่ม สำหรับเนื้อวัวนี้มีเส้นใยที่หยาบและเหนียวกว่าเนื้อหมู ต้องใส่น้ำสับปะรดลงไปด้วย เพราะมีเอนไซม์ในการย่อยเนื้อ ส่วนเนื้อไก่เพียงใส่เครื่องปรุงรสตามตำรับก็นุ่มแล้ว เวลาในการหมักก็สั้นด้วย เคล้าเครื่องปรุงต่างๆ พอทั่วแล้วปรุงได้เลย แต่ต้องแช่ไว้ในตู้เย็นไว้ก่อน จะทำให้เครื่องปรุงรัดตัวเข้าเนื้อได้เร็วขึ้น แต่ถ้ายังไม่ปรุงใส่กล่องแช่ช่องแช่แข็งไว้ได้เป็นอาทิตย์ เวลาจะปรุงเพียงเอาเนื้อออกจากตู้เย็นทิ้งให้ละลาย ระหว่างนี้ก็เตรียมเครื่องเคราอื่นๆ ก็ปรุงอาหารอร่อยๆ ได้แล้ว

ความคิดเห็นที่ 230 คุณ : วัน [2005-06-10 08:00:41] [84.147.154.xxx]



หมูผัดหวานราดต้นกระเทียม


เครื่องปรุง

หมูสันนอก 200 กรัม
ต้นกระเทียม 2 ต้น
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งข้าวโพด 1 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วขาว 1 ช้อนโต๊ะ
เหล้า 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 2 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ล้างเนื้อหมู หั่นเป็นชิ้นเล็กยาว
2. เคล้าเนื้อหมู แป้ง ซอสปรุงรส เหล้า น้ำมัน เข้าด้วยกัน หมักทิ้งไว้สักครู่
3. ล้างต้นกระเทียม ซอยเป็นชิ้นเล็ก แช่น้ำเย็นจัดจนงอ เอาขึ้นให้สะเด็ดน้ำ จัดใส่จานแช่เย็น
4. เคี่ยวน้ำตาลทราย ซีอิ๊วขาว เข้าด้วยกันพอเหนียว ใส่เนื้อหมูที่หมักไว้ในข้อ 2 พอสุกและเครื่องปรุงรสเข้าเนื้อ ตักราดบนจานต้นกระเทียม เสิร์ฟ



ความคิดเห็นที่ 231 คุณ : วัน [2005-06-10 08:01:44] [84.147.154.xxx]



ผัดเนื้อบร็อคโคลี่


เครื่องปรุง

บร็อคโคลี่ 1 ต้น
เนื้อวัว 300 กรัม
ซอสปรุงรส 1 ช้อนโต๊ะ
แป้งสาลี 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำตาลทราย 1 ช้อนโต๊ะ
เกลือป่น 1 ช้อนชา
น้ำสับปะรด 1/4 ถ้วย
เหล้า 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ล้างเนื้อวัว หั่นชิ้นพอคำ ใส่ลงในอ่างผสม
2. เคล้าเนื้อกับซอสปรุงรส แป้ง น้ำตาล เกลือ น้ำสับปะรด เหล้า ให้เข้ากัน นำเข้าตู้เย็น หมักทิ้งไว้ 30 นาที
3. ล้างบร็อคโคลี่ หั่นเป็นดอก ส่วนต้นปอกเปลือกแข็งออก หั่นเป็นท่อนสั้นๆ ลวกพอสุก แล้วแช่ลงในน้ำเย็น เอาขึ้นให้สะเด็ดน้ำ
4. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลางพอร้อน ใส่เนื้อที่หมัก ผัดพอสุก ใส่บร็อคโคลี่ที่ลวกไว้ ผัดให้ทั่ว ตักใส่จาน เสิร์ฟ



ความคิดเห็นที่ 232 คุณ : วัน [2005-06-10 08:03:09] [84.147.154.xxx]



ซี่โครงหมูอบมะพร้าวอ่อน


เครื่องปรุง

ซี่โครงหมูอ่อน 500 กรัม
เนื้อมะพร้าวอ่อน ตักเป็นชิ้น 3/4 ถ้วย
เห็ดหอมแช่น้ำหั่นชิ้น 3 ดอก
น้ำมะพร้าวอ่อน 1/2 ถ้วย
น้ำตาลทราย 1/4 ถ้วย
เกลือป่น 1 ช้อนชา
ซอสมะเขือเทศ 1/4 ถ้วย
น้ำมันหอย 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ล้างซี่โครงหมู สับเป็นท่อนสั้น 1 1/2 นิ้ว
2. เคล้าน้ำตาล เกลือ ซอสมะเขือเทศ น้ำมันหอย น้ำมะพร้าวอ่อน เข้าด้วยกัน แล้วหมักกับซี่โครงหมู ใส่ไว้ในตู้เย็น
3. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟกลาง พอร้อนใส่ซี่โครงหมูที่หมัก ผัดพอทั่ว
4. ใส่เนื้อมะพร้าวอ่อน เห็ดหอม ผัดพอทั่ว ปิดฝา ลดไฟอ่อน เคี่ยวจนสุกนุ่ม ตักใส่จาน เสิร์ฟ



ความคิดเห็นที่ 233 คุณ : วัน [2005-06-10 08:04:39] [84.147.154.xxx]



ไก่ย่างตะไคร้


เครื่องปรุง

สะโพกไก่ 4 ชิ้น
ตะไคร้ซอย 2 ต้น
กระเทียม 7 กลีบ
ข่าหั่นแว่น 2 แว่น
พริกไทย 1 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 3 ช้อนโต๊ะ
น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
กะทิ 3 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. โขลกพริกไทยพอแหลก ใส่กระเทียม ตะไคร้ ข่า โขลกเข้าด้วยกันให้ละเอียด
2. ล้างไก่ ใส่ลงในอ่างผสม ใส่เครื่องที่โขลกในข้อ 1 ใส่น้ำตาล น้ำปลา กะทิ เคล้าให้เข้ากัน หมักไว้
3. นำไก่มาย่างไฟกลางค่อนข้างอ่อนจนสุกนุ่ม จัดใส่จาน รับประทานกับน้ำจิ้มตามชอบ

ความคิดเห็นที่ 234 คุณ : วัน [2005-06-10 08:09:41] [84.147.154.xxx]





ข้าวอบจานอร่อย

--------------------------------------------------------------------------------

การทำข้าวอบ เป็นการทำให้ข้าวสุก โดยค่อยๆ ใช้ความร้อนให้ข้าวสุกทีละน้อย ข้าวสุกระอุทั่วและร้อนนาน ข้าวอบมีให้เลือกทำกันหลายจาน เช่น ข้าวอบกุนเชียง ข้าวอบรวมมิตร ข้าวอบเครื่องแกง ข้าวอบใบบัว ข้าวอบทะเล เป็นต้น
ข้าวอบมีทั้งวิธีการผัดข้าวพอสุกก่อน แล้วจึงใส่ภาชนะอบเพื่อให้ข้าวแห้งและมีกลิ่นหอม ข้าวอบประเภทนี้เหมาะสำหรับทำในการจัดเลี้ยงจำนวนมาก เพราะทำได้อย่างรวดเร็วทันใจ โดยผัดข้าวใส่ถ้วยเล็กๆ เอาไว้ 1 ถ้วยก็ต่อ 1 คน พอถึงเวลางานเพียงเอามาอบให้ร้อนอีกครั้งหนึ่งก็ใช้ได้แล้ว ข้าวอบแบบผัด จะผัดพอเครื่องมีกลิ่นหอม ใส่น้ำลงไปในข้าวที่ผัด แล้วนำไปอบไอน้ำ ข้าวอบที่ได้จะสุกหอม ส่วนอีกแบบก็คือ ข้าวอบที่ผสมเครื่องปรุงต่างๆ ทั้งหมดลงในภาชนะ นำไปอบจนสุกหอม ข้าวอบแบบที่ต้องผัดกับเครื่องก่อนนี้ ข้าวจะมีกลิ่นหอมของเครื่องปรุง และย่นระยะเวลาการอบ เพราะได้ผ่านการผัดมาแล้วครั้งหนึ่ง แบบแรกจึงเหมาะทำเลี้ยงมากกว่า แต่ถ้าเป็นข้าวอบแบบที่นำเครื่องทั้งหมดผสมกัน แล้วนำไปอบทีเดียว ใช้ระยะเวลาอบนานขึ้น เหมาะที่จะทำกินภายในครอบครัว ซึ่งการอบแต่ละชนิดมีข้อดีต่างกัน แล้วแต่ว่าจะเลือกทำวิธีไหน

ข้าวที่ใช้ในการอบ ต้องเลือกข้าวเก่า เช่นข้าวเสาไห้ ข้าวเหลืองประทิว ข้าวพันธุ์พื้นบ้าน เป็นต้น เพราะเมื่อสุกข้าวจะเรียงเป็นเม็ดสวย เคล็ดลับที่ทำให้ข้าวอบอร่อยอยู่ที่วิธีการผัดข้าวสารกับเครื่องปรุงอื่นๆ ต้องใช้ตะหลิวหรือพายที่เป็นไม้ผัด เมล็ดข้าวจะไม่หัก ข้าวเป็นเม็ดสวยเมื่อสุก เวลาอบต้องปิดฝาถ้วยข้าว ข้าวส่วนบนจึงสุกนุ่มทั่วเหมือนกันหมด ไม่แห้งแข็ง ข้าวอบนี้ต้องกินกันร้อนๆ ทันทีที่ออกจากเตาเลยทีเดียว จึงได้รสชาติอย่างเต็มที่

ความคิดเห็นที่ 235 คุณ : วัน [2005-06-10 08:10:26] [84.147.154.xxx]





บะจ่างเจ
เครื่องปรุง

ข้าวเหนียวเขี้ยวงูแช่น้ำค้างคืน 1 ถ้วย
เห็ดหอมแช่น้ำหั่นชิ้นยาว 3 ดอก
หัวผักกาดเค็มหั่นชิ้นเล็ก 1/4 ถ้วย
เม็ดบัวต้มสุก 1/4 ถ้วย
ถั่วลิสงต้มสุก 1/4 ถ้วย
พริกไทยป่น 2 ช้อนชา
เกลือป่น 1/4 ช้อนชา
ซีอิ๊วขาวเห็ดหอม 3 ช้อนโต๊ะ
ซีอิ๊วดำ 1/4 ช้อนชา
น้ำมันพืช 2 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ใส่น้ำมันลงในหม้อ ตั้งไฟกลาง ใส่หัวผักกาดเค็ม เห็ดหอม ซีอิ๊วขาว ซีอิ๊วดำ พริกไทย เกลือ ผัดพอเข้ากัน
2. ใส่ข้าวเหนียว เม็ดบัว ถั่วลิสง ผัดให้เข้ากัน ใส่น้ำพอท่วม ปิดฝา ใช้ไฟอ่อน คอยคนอย่าให้ไหม้ พอน้ำจวนแห้ง(ใช้เวลาประมาณ 20 นาที) ยกลง ปิดฝาไว้สักครู่ ข้าวจะสุกและน้ำแห้งกำลังดี
3. เปิดฝา คนให้ทั่วแล้วปิดฝา ทิ้งไว้สักครู่ จึงตักเสิร์ฟ



ความคิดเห็นที่ 236 คุณ : วัน [2005-06-10 08:11:14] [84.147.154.xxx]



ข้าวอบรวมมิตร


เครื่องปรุง

ข้าวสวย 2 ถ้วย
เนื้อหมูหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 2 ช้อนโต๊ะ
กุ้งแห้งทอด 2 ช้อนโต๊ะ
ไข่ไก่ 2 ฟอง
เห็ดหอมแช่น้ำหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 2 ช้อนโต๊ะ
แครอทหั่นชิ้นเล็ก 2 ช้อนโต๊ะ
ผักชีเด็ดเป็นใบ 1 ต้น
พริกชี้ฟ้าแดงหั่นเป็นเส้น 1 เม็ด
พริกหวานหั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 1 เม็ด
หอมใหญ่หั่นชิ้นสี่เหลี่ยม 2 ช้อนโต๊ะ
กระเทียมสับละเอียด 1 ช้อนชา
พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา
น้ำตาลทราย 1 ช้อนชา
เกลือป่น 1/2 หรือ 1 ช้อนชา
ซอสมะเขือเทศ 2 ช้อนโต๊ะ
ซอสพริก 1 ช้อนโต๊ะ
น้ำมันพืช 3 ช้อนโต๊ะ


วิธีทำ

1. ใส่น้ำมันลงในกระทะ ตั้งไฟให้ร้อน ใส่กระเทียม เจียวพอเหลือง ใส่เนื้อหมูลงผัด ใส่เห็ดหอม หอมใหญ่ แครอท พริกหวาน
2. ปรุงรสด้วยน้ำตาล ซอสมะเขือเทศ ซอสพริก เกลือ ใส่ข้าวลงผัดให้เข้ากัน ต่อยไข่ใส่ คนให้ทั่วจนไข่สุก
3. ตักใส่หม้อ ปิดฝา อบนาน 5 นาที ใช้ไฟอ่อนๆ ยกลงจากเตา
4. จัดใส่จาน โรยกุ้งแห้งทอด พริกไทย ผักชี พริกชี้ฟ้าแดง เสิร์ฟ

   
พิมพ์ สูตรอาหารที่นี้