บทความ เรื่อง : "โอ-กระแต" มองชุดนักศึกษา คุณค่าแห่งปัญญาหรือยาปลุกเซ็กซ์?
   


บทความเลขที่ 382
คนสร้างบทความ :
hewhew
วันที่ตั้งบทความ :
2005-06-17
คะแนนบทความ :
1492(เฉพาะเดือนนี้ )
จำนวนคนอ่าน :
9967(เฉพาะเดือนนี้ )
   


"โอ-กระแต" มองชุดนักศึกษา คุณค่าแห่งปัญญาหรือยาปลุกเซ็กซ์?

------------------------------------------------------------------------------------------------
เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากทีเดียวสำหรับ "ชุดนักศึกษา" ของไทยที่สวมใส่กันอยู่ทั้งในเรื่องของของ "รูปทรง" และ "ความหมาย" (ในส่วนของนักศึกษาหญิง)

เพราะแทนที่จะเป็น "เครื่องแบบ" ที่แสดงถึง "ความรู้" และ "สติปัญญา" ปัจจุบันกลับกลายเป็นว่าหากมีการพูดถึง "ชุดนักศึกษา" ขึ้นมาทีไร ในความรู้สึกของใครหลายๆ คน ชุดที่ควรจะทรงไว้ซึ่งคุณค่าอันเต็มไปด้วยภูมิปัญญานี้ได้แปรเปลี่ยนมาเป็น "เครื่องหมาย" และ "เครื่องมือ" ที่เอาไว้กระตุ้นอารมณ์ความรู้สึกทางเพศของผู้ชายส่วนใหญ่ไปโดยปริยาย

"มันจะมาโทษเราไม่ได้หรอกนะ คิดกันง่ายๆ ว่า ถ้ามันไม่มีคนซื้อ คิดดูแล้วกันว่ามันจะมีคนเอามาขายมั้ย..." เสียงจากแม่ค้าขายชุดนักศึกษารายหนึ่งย่านโบนันซ่า มาบุญครอง คนหนึ่งบอกเล่ากับบันเทิงออนไลน์

แม่ค้าคนเดิมยอมรับว่าจริงอยู่ที่ว่าหนึ่งในเหตุผลของการเปลี่ยนแปลงในเชิงสัญลักษณ์ของชุดนักศึกษาจากเครื่องแบบของคนมีความรู้จนแทบจะกลายเป็นยาปลุกเซ็กซ์ไปแล้วในตอนนี้ว่า ส่วนหนึ่งก็อาจจะมาจากเรื่องของรูปแบบของชุดที่ดูจะเปิดเผยและเน้นสัดส่วนของผู้ที่สวมใส่มากยิ่งขึ้น ทว่าในขณะเดียวกันพฤติกรรมของผู้ที่สวมใส่เองก็มีส่วนอย่างมากที่ทำให้คุณค่าของมันเปลี่ยนไป

"มันก็เริ่มมาจากพวกที่เรียนด้วยแล้วก็ขายตัวไปด้วยนั่นแหละ แรกๆ อาจจะทำเพราะความจำเป็นแต่ตอนหลังความจำเป็นที่ว่าก็เปลี่ยนมาเป็นความอยากสบาย ผู้ชายเองประเภทพวกเสี่ยๆ เองก็ชอบเพราะรู้สึกว่าผู้หญิงพวกนี้สะอาด ยิ่งได้พวกเรียนที่ดีๆ มหา' ลัย ของรัฐ ยิ่งรู้สึกภูมิใจ ทุ่มราคาไม่อั้น พอราคามันสูงก็กลายเป็นว่าผู้หญิงหากินที่เขาทำเป็นอาชีพก็ต้องดิ้นรน พวกที่ทำร้านผับเธคก็ต้องทำบ้าง หาชุดนักศึกษาหรือว่าที่มันใกล้เคียงมาให้เด็กในร้านตัวเองแต่ง"

"ยิ่งช่วงหลังชุดมันเริ่มที่จะแหวะ มันเริ่มที่จะรัดกันมาก ที่สำคัญเด็กเองก็พาชุดไปอยู่ในที่ๆ มันไม่ควรจะอยู่มากขึ้น คือแทนที่จะเป็นมหาลัย เอ้า อยู่ในห้างโน่น อยู่ในผับ ในเธค นั่งคีบบุหรี่ ยกเหล้ากันเป็นว่าเล่น บางทีพี่ยังรู้สึกเลยนะว่าระหว่างน้องที่เขาเป็นนักศึกษาจริงๆ แต่แต่งตัวแบบแหวะโน่นแหวะนี่ กับผู้หญิงหากินที่เขาเอาชุดนักศึกษามาแต่งเพื่อหาเงินนั้น ชุดใครมันจะมีคุณค่ามากกว่ากัน" เธอพูดทิ้งท้ายอย่างน่าคิด

"จริงๆ แล้วมันก็มีส่วนนะ แต่มันก็แล้วแต่ยุคแล้วแต่สมัยใช่ไหม..." "โอ วุฒ วรธรรม" นักแสดงอารมณ์ดีแสดงความคิดเห็น

"ยุคนี้แฟชั่นต้องเป็นแบบนี้ แต่มันก็ไม่สมควรอย่างที่เสื้อตึงๆ กระโปรงสั้นๆ แล้วก็ผ่ากันเข้าไป จะแต่งอย่างนั้นก็ไม่ต้องเป็นนักศึกษาก็ได้ แต่ไม่รู้เหมือนกันนะ มันเป็นสิทธิของเขาไปห้ามเขาไม่ได้ แต่เขาก็มีกฎของมหา'ลัยอยู่ถ้าแต่งกันมากๆ ก็แสดงว่าอาจารย์ที่อยู่ในมหา'ลัยไม่สามารถปกรองนักศึกษาได้ ตอนนี้นั่งทีก็ผ่าเข้าเห็นไปถึงไหนแล้ว แล้วแบบเสื้อต้องตึงๆ พอมันตึงมากๆ มันก็มีรู รูกระดุม ก็มองเห็นเนินหน้าอก เห็นเสื้อยกทรง"

แต่งเพื่อชวนให้มอง?
"ใช่ และมันก็ห้ามไม่ได้ที่จะไม่ให้มองเพราะคุณเลือกที่จะใส่เอง ก็ใส่ให้เขามองถ้าถามว่าชอบไหม ชอบ ไม่ใช่ว่าไม่ชอบ เรื่องปกติของผู้ชายที่ต้องมอง คือยังไงมันก็ไม่เหมาะ แต่ก็อาจจะห่างตาห่างหายในอนาคตก็ได้เพราะว่าอย่างที่ว่า นักศึกษาแต่งตัวตามแฟชั่น"

"มันเป็นปัญหาที่แก้ยาก มันต้องสัมภาษณ์นักศึกษาว่าทำไมถึงใส่ เพราะถามเราแล้วทำไมถึงมอง ก็น่ามองนี่ ก็เขาใส่เพื่อให้ผู้ชายมอง ซึ่งอย่างเราก็อาจจะมองอย่างเดียว แต่ที่น่าคิดก็คือพฤติกรรมของนักศึกษาก็คือไปเรียนแล้วก็กลับ ไปที่เดิมกลับที่เดิม พวกอาชญากรก็อาจจะรออยู่ได้จะทำอะไรก็ได้"

คิดว่าปัญหาตรงนี้น่าจะแก้ตรงไหนได้บ้าง?
"มันจะแก้ได้เหรอให้นักศึกษาสำหรับนักศึกษาเองนะ ให้ใส่ชุดไปรเวทอาจจะช่วยได้มั้ง..."

มันจะไม่โป๊หนักขึ้นกว่าเดิมหรือ?
"แต่อย่างน้อยก็ไม่ทำลายภาพพจน์นักศึกษานะ ผมว่า.."

ด้าน "กระแต ศุภักษร" ซึ่งยืนอยู่ทั้งในฐานะของนักแสดงทั้งฐานะของนักศึกษาได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า โดยส่วนตัวแล้วเธอคิดว่าการที่นักศึกษาหญิงส่วนใหญ่แต่งชุดนักศึกษาที่ออกมานั้นบางทีอาจจะเป็นคนอื่นที่คิดไปเองว่ามั้นโป๊

"อย่างแต แตก็แต่งปกติเหมือนกับเพื่อนๆ คือในกลุ่มก็จะใส่เสื้อที่มันพอดีตัว ไม่ได้รัดอะไรมากมายแล้วก็ไม่ได้หลวมมาก กระโปรงสั้น...เลยจากเข่าขึ้นมาประมาณคืบนึงค่ะ และที่แตแต่งแบบนี้เพราะว่ามันค่อนข้างจะมั่นใจ เวลาเดินอะไรมันจะสะดวกง่าย ถ้าเป็นกระโปรงยาวมันค่อนข้างจะไม่ถนัดมาก ส่วนเสื้อก็จะติดกระดุมที่เป็นเข็มกลัดทุกเม็ดค่ะ ซึ่งบางทีตรงนี้ถ้าไม่ทำมันจะเห็นเป็นร่องเข้าไป "

"แตคิดว่ามันเป็นคนๆ ไปนะ แล้วอย่างที่เขาแต่งๆ กันแต่ว่ามันเป็นเรื่องของความมั่นใจและมันเป็นการที่จะช่วยเสริมให้เขาดูดีขึ้นน่ะค่ะ บางคนก็อาจจะมั่นใจมากซึ่งก็อาจจะเกินไปคือแต่งซะรัดเลย หรือบางทีก็เลือกเสื้อที่มันบางแล้วใส่เสื้อชั้นในสีดำ ซึ่งแตว่าเขาอยากจะให้มันออกมาดูสวยดูดี เป็นการได้อวดรูปร่างมากกว่าที่จะให้มันออกมาดูโป๊ แล้วมันก็เป็นแฟชั่นด้วย...แตแต่งแบบนั้นมั้ย ไม่แต่งค่ะ (หัวเราะ) แตจะค่อนข้างจะรัดกุม เวลาสวมเสื้อบางก็ต้องมีเสื้อข้างในปิดมิดชิดค่ะ"

คิดว่าปัจจุบันระหว่างความภาคภูมิใจในเครื่องแแบบที่บ่งบอกถึงสถาบัน กับความรู้สึกพอใจในความสวยของชุด สิ่งไหนที่นักศึกษาหญิงส่วนใหญ่ให้ความสนใจมากกว่ากัน?
"ถ้าเป็นแต แตว่าแตภูมิใจด้วยนะแล้วก็รู้สึกว่ามันสวยด้วย ส่วนคนอื่นแตไม่แน่ใจ คือที่แต่งแบบฟิตๆ เขาอาจจะคิดว่ามันมั่นใจอย่างที่บอกนั่นแหละได้อวดรูปร่างของตนเองด้วย"

ในส่วนของนักจิตวิทยาชื่อดังอย่าง "ประเวช ตันติพิพัฒนกุล" ได้แสดงทัศนะเกี่ยวกับเรื่องนี้เป็นภาพรวมไว้น่าสนใจว่า ในเรื่องของการแต่งกายของวัยรุ่นที่มีการเปิดเผยเนื้อเปิดเผยตัวกันมากขึ้นนั้น ส่วนหนึ่งก็เพราะความต้องการที่อยากจะได้การยอมรับความสามารถในการแสดงออกของตนเองจากสังคมนั่นเอง

"ชุดล่อแหลมเกินไปหรือเปล่า ผมคิดว่ามันเป็นสองทางนะครับ คือคนผลิตเสื้อผ้าก็ผลิตเพื่อขาย ก็ผลิตเพราะเขารู้ว่าก็มีคนซื้อคือถ้าเขาผลิตแล้วเขารู้ว่าไม่มีคนซื้อเขาก็ไม่ผลิต ส่วนคนซื้อเนี่ย ตอนนี้มันมีอีกค่านิยมนึงที่มีอยู่ในกลุ่มเยาวชนก็คือว่ามีการแข่งขันกัน คือเยาวชนเขาอยากให้คนอื่นเนี่ยยอมรับความสามารถในการแสดงออกของตัวเอง ถ้ามันไม่มีช่องทางที่เกิดขึ้นในสังคม เขาก็จะเลือกช่องทางที่พอจะมีพอจะเป็นไปได้ การแต่งตัวและการโชว์ความสวยงาม โชว์หุ่น ทรวดทรงของตัวเองก็เป็นหนึ่งในที่สาวๆ อาจจะรู้ว่ามันเป็นสิ่งที่ทำได้"

จนมองข้ามความเหมาะสม?
"ความเหมาะสมเป็นเรื่องของเกมบางอย่าง ต้องถามว่าเกมนี้ใครเป็นคนตั้ง ถ้าเรายึดค่านิยมทั้งหมดในกลุ่มเยาวชนเป็นตัวตั้งเราก็จะรู้สึกว่ามันจะมีอยู่ 2 กระแส กระแสนึงก็คือกระแสที่ยังมีการอนุรักษ์อยู่ภายในตัวคิดในลักษณะที่ว่าผู้หญิงก็ควรจะต้องไม่เปิดเผยร่างกาย"

"อีกกระแสนึง ซึ่งมาแรงในโลกโลกาภิวัฒน์ในเรื่องของมิวสิกวีดีโอ ในเรื่องของข่าวจากซีกโลกตะวันตกซึ่งการเปิดเผยร่างกายเป็นเรื่องปกติที่ส่งผ่านไหลบ่ามาคู่กันกับความรู้สึกชื่นชมในประเทศเหล่านั้น เราก็เอา 2 เรื่องนี้มาผสมกันแล้วก็กลายเป็นว่าคนที่ทำสิ่งนี้ได้เป็นคนที่ทันสมัย ซึ่งเป็นตัวล่อที่มีพลังมากสำหรับคนในสังคมไทยโดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น"

"ส่วนจะกระตุ้นอารมณ์เพศชายมั้ย อันนี้ต้องเข้าใจธรรมชาติของผู้ชาย โดยวิวัฒนาการเนี่ยผู้ชายมีสัญชาติญาณอย่างหนึ่งคือธรรมชาติได้สร้างเพศชายให้เป็นเพศที่มีหน้าที่หลักในเชิงสัญชาติญาณการแพร่พันธุ์ แล้วสัญชาติญาณนี้เนี่ย ผู้ชายที่เรียนรู้ในการควบคุมมันได้จำกัดก็อาจจะปล่อยในสิ่งที่เขาเห็นมันดึงให้อารมณ์เขาเตลิดไปได้ นั่นไม่ใช่ความชั่วร้ายที่มีสัญชาติญาณทางเพศนะครับ มันไม่ใช่ความผิด หรือความชั่วร้ายที่มี แต่ว่ามันเป็นเรื่องของการเรียนรู้ที่จะควบคุมและจัดการให้เหมาะสมกับสถานการณ์มากกว่า"

"ถามว่าผู้ชายส่วนใหญ่เห็นผู้หญิงแต่งตัวเปิดเผยแล้วจะมีอารมณ์ทางเพศเสมอไปไหม ไม่ครับ"

ทั้งหมดจะไปโทษผู้ส่งไม่ได้ ส่วนหนึ่งต้องโทษผู้รับที่ไม่มีภูมิคุ้มกันเพียงพอ
"ถ้าเราคิดว่าตรงนี้คือปัญหาจริงเราก็จะไปโทษตะวันตกไม่ได้ เพราะว่าในสังคมเราเองก็มีลักษณะที่ให้การสนับสนุนโครงสร้างทางอ้อมหลายรูปแบบ เช่นเราจับเด็กมาประกวดกันตั้งแต่เล็ก ชอบจับเด็กแต่งตัวเหมือนสาวๆ ทั้งที่เด็กควรจะมีความน่ารักแบบเด็ก พูดง่ายๆ ว่าผู้ใหญ่สนับสนุนโดยไม่เจตนามาตั้งแต่ไหนแต่ไร"

"แต่ถ้าดูจากวัยรุ่นในภาพรวมๆ อย่าเพิ่งไปเหมารวม ผมคุยกับวัยรุ่นโดยแบ่งกลุ่มง่ายๆ คือกลุ่มที่เป็นขั้วที่ยังค่อนข้างจะยึดธรรมเนียมเดิม กับขั้วที่แกว่งไปสุดๆ ส่วนใหญ่กลุ่มที่ยังยึดธรรมเนียมเดิมเพราะว่าเค้ามีความภาคภูมิใจในตัวเอง คนที่มีความเชื่อมั่นเค้าจะไม่รู้สึกว่าเค้าวิ่งตามกระแสเสมอไป ซึ่งกลับกันกับคนส่วนใหญ่ที่เข้าใจว่าต้องกล้าแสดงออก"

ปัญหาพวกนี้แก้ยังไง?
"ผมคิดว่าขณะนี้กระแสสังคมถูกควบคุมโดยการตลาด มากกว่ากระแสสังคมที่ถูกควบคุมโดยธรรมเนียมที่คิดว่าถูกต้องมากไป พูดง่ายๆ เลยว่ากระแสความเชื่อถูกกำหนดโดยเงินที่เอาไว้ใช้เพื่อขายสินค้า ดังนั้นกระแสนี้มันแรงมาก ถ้าคนไทยกันเองไม่มีการสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ชุมชนหรือสังคม ก็คงต้องตกเป็นฝ่ายถูกกระทำต่อไป"



ยังไม่มีคำวิจารณ์ สำหรับ บทความนี้

คนตั้ง  : 
อีเมล์ :
คำวิจารณ์  : 
ยืนยัน
   
วันที่ตั้งกระทู้  : 
23-04-2024


เวป หางาน ค้นหางาน ตำแหน่งงาน พนักงาน ejobonline.com