บทความ เรื่อง : แฉ รับน้องวิตถาร!!-“จับชักเย่ออวัยวะเพศ-ไฟลนขนเพชร”
   


บทความเลขที่ 384
คนสร้างบทความ :
hewhew
วันที่ตั้งบทความ :
2005-06-17
คะแนนบทความ :
1500(เฉพาะเดือนนี้ )
จำนวนคนอ่าน :
8500(เฉพาะเดือนนี้ )
   


แฉ รับน้องวิตถาร!!-“จับชักเย่ออวัยวะเพศ-ไฟลนขนเพชร”

------------------------------------------------------------------------------------------------
ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ฉาวโฉ่อีก! ม.เทคโนฯราชมงคลอีสาน นครราชสีมา รับน้องใหม่สุดวิตถาร เผยถูกรุ่นพี่ทารุณแก้ผ้าจับคู่เชือกมัดนกเขาดึงชักเย่อจนหน้าเขียว อีกทั้งจุดเทียนเผาขนเพชรอย่างทารุณและบังคับกินเหล้าแก้มเนื้อสุนัขแถมซ้ำข่มขู่รีดไถเงิน เผยรับน้องมาราธอนกว่า 10 วัน ด้านพ่อโวยทำร้ายจิตใจเกินไปรับไม่ได้ ให้ลูกชายเปลี่ยนสถานศึกษาใหม่ พร้อมเรียกร้องกระทรวงศึกษาตรวจสอบเอาผิดผู้บริหารที่ปล่อยให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.นายสุรศักดิ์ อินยะโพธิ์ อายุ 52 ปีอยู่บ้านเลขที่ 13/1 บ.ยาง ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ได้นำนายปฏิภาณ อินยะโพธิ์ อายุ 21 ปี ลูกชายที่เรียนจบจากวิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์แล้วสอบเอ็นทรานซ์เข้าศึกษาต่อระดับปวส. ที่คณะเครื่องกล แผนกช่างกลหนัก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา ซึ่งอยู่ในสภาพร่างกายอิดโรยมีบาดแผลและรอยบอบช้ำไปทั้งตัว ไปให้แพทย์ทำแผลและตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังจากนายปฏิภาณ ได้หนีออกมหาวิทยาลัยฯกลับบ้าน จากเนื่องจากถูกรุ่นพี่รับน้องใหม่อย่างโหดมและทารุณ

นายปฏิภาณ เล่าว่า ตนทนความทรมานไม่ไหวจึงได้หนีกลับบ้าน จากการที่ถูกรุ่นพี่รับน้องมาราธอนมาตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมาจนถึงวันหนีกลับนานกว่า 10 วัน โดยกิจกรรมรับน้องใหม่ที่พิเรนทร์และหนักที่สุด คือ รุ่นพี่สั่งให้รุ่นน้องแก้ผ้า แล้วใช้เชือกมัดคอขวดที่บรรจุน้ำเต็มขวดและนำปลายเชือกที่แยกเป็น 2 ข้างไปมัดติดกับปลายอวัยวะเพศรุ่นน้อง 2 คน ที่รุ่นพี่จับคู่ให้ แล้วให้ดึงชักเย่อกันอยู่บริเวณด้านหลังแผนกฯ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะชนะ คือ ปลายเชือกหลุดออกจากปลายอวัยวะเพศฝ่ายตรงข้าม

อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายเชือกหลุดออกจากปลายอวัยวะเพศฝ่ายตรงข้าม แต่ฝ่ายที่ไม่หลุดแรงถ่วงน้ำหนักของขวดน้ำก็จะดิ่งลงสู่พื้นแล้วดึงกระชากอวัยวะเพศอย่างแรงและเจ็บปวดบริเวณที่เชือกผูก ท่ามกลางการเชียร์อย่างสะใจของรุ่นพี่บนความทรมานของรุ่นน้องจำนวนมาก จากนั้นก็จับคู่ให้ใหม่กับคนที่ชนะหรือเชือกยังผูกอยู่กับอวัยวะเพศอีกหมุนเวียนไปเรื่อยๆ

นายปฏิภาณ เล่าต่อว่า ยิ่งไปกว่านั้นยังได้จุดเทียนนำไฟมาเผาอวัยวะเพศ หรือขนเพชร ของรุ่นน้องทุกคนอย่างทารุณ และยังมีกิจกรรมที่พิสดารให้กินเหล้าแก้มเนื้อสุนัข พร้อมทั้งข่มขู่รีดไถเงินไปซื้อเหล้าอย่างสุดโหด อีกทั้งยังบังคับให้จับดึงอวัยวะเพศตัวเองออกมาโชว์เพื่อน ท่ามกลางความอับอาย ซ้ำยังให้ถอดเสื้อผ้ามือไพล่ทั้งหน้าและหลังนอนหงาย-นอนคว่ำใช้ไหล่คลานตะเกียกตะกายไถไปบนพื้นซีเมนต์จากหน้าคณะวิศวกรรมไฟฟ้าไปจนถึง แผนกช่างกลหนัก

“จะทำอย่างนี้เกือบทุกวันตามแต่รุ่นพี่จะสั่ง ตามร่างกายถูไถพื้นซีเมนต์จนเกิดบาดแผลเต็มตัวและเจ็บปวดไปหมด เสื้อผ้าชุดใหม่ ๆ ขาดทั้งหมด แม้แต่กลางคืนรุ่นพี่เรียกให้ออกมารับน้อง ก็ต้องออกมา หากออกมาช้าก็จะถูกซ่อมเหมือนทหาร ถึงแม้อาจารย์จะรู้แต่ก็ไม่เคยสนใจ” นายปฏิภาณ กล่าว





นายปฏิภาณ อินยะโพธิ์ นักศึกษา ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จ. นครราชสีมา และพ่อ (นั่งขวามือ)เล่าเหตุการณ์รับน้องใหม่อย่างโหดร้ายทารุณของรุ่นพี่ให้ผู้สื่อข่าวฟัง


ศูนย์ข่าวนครราชสีมา- ฉาวโฉ่อีก! ม.เทคโนฯราชมงคลอีสาน นครราชสีมา รับน้องใหม่สุดวิตถาร เผยถูกรุ่นพี่ทารุณแก้ผ้าจับคู่เชือกมัดนกเขาดึงชักเย่อจนหน้าเขียว อีกทั้งจุดเทียนเผาขนเพชรอย่างทารุณและบังคับกินเหล้าแก้มเนื้อสุนัขแถมซ้ำข่มขู่รีดไถเงิน เผยรับน้องมาราธอนกว่า 10 วัน ด้านพ่อโวยทำร้ายจิตใจเกินไปรับไม่ได้ ให้ลูกชายเปลี่ยนสถานศึกษาใหม่ พร้อมเรียกร้องกระทรวงศึกษาตรวจสอบเอาผิดผู้บริหารที่ปล่อยให้เรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (16 มิ.ย.) เมื่อเวลา 09.00 น.นายสุรศักดิ์ อินยะโพธิ์ อายุ 52 ปีอยู่บ้านเลขที่ 13/1 บ.ยาง ต.บ้านยาง อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ได้นำนายปฏิภาณ อินยะโพธิ์ อายุ 21 ปี ลูกชายที่เรียนจบจากวิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์แล้วสอบเอ็นทรานซ์เข้าศึกษาต่อระดับปวส. ที่คณะเครื่องกล แผนกช่างกลหนัก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน วิทยาเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ นครราชสีมา ซึ่งอยู่ในสภาพร่างกายอิดโรยมีบาดแผลและรอยบอบช้ำไปทั้งตัว ไปให้แพทย์ทำแผลและตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศูนย์บุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์ หลังจากนายปฏิภาณ ได้หนีออกมหาวิทยาลัยฯกลับบ้าน จากเนื่องจากถูกรุ่นพี่รับน้องใหม่อย่างโหดมและทารุณ

นายปฏิภาณ เล่าว่า ตนทนความทรมานไม่ไหวจึงได้หนีกลับบ้าน จากการที่ถูกรุ่นพี่รับน้องมาราธอนมาตั้งแต่วันที่ 4 มิ.ย. ที่ผ่านมาจนถึงวันหนีกลับนานกว่า 10 วัน โดยกิจกรรมรับน้องใหม่ที่พิเรนทร์และหนักที่สุด คือ รุ่นพี่สั่งให้รุ่นน้องแก้ผ้า แล้วใช้เชือกมัดคอขวดที่บรรจุน้ำเต็มขวดและนำปลายเชือกที่แยกเป็น 2 ข้างไปมัดติดกับปลายอวัยวะเพศรุ่นน้อง 2 คน ที่รุ่นพี่จับคู่ให้ แล้วให้ดึงชักเย่อกันอยู่บริเวณด้านหลังแผนกฯ จนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะชนะ คือ ปลายเชือกหลุดออกจากปลายอวัยวะเพศฝ่ายตรงข้าม

อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายเชือกหลุดออกจากปลายอวัยวะเพศฝ่ายตรงข้าม แต่ฝ่ายที่ไม่หลุดแรงถ่วงน้ำหนักของขวดน้ำก็จะดิ่งลงสู่พื้นแล้วดึงกระชากอวัยวะเพศอย่างแรงและเจ็บปวดบริเวณที่เชือกผูก ท่ามกลางการเชียร์อย่างสะใจของรุ่นพี่บนความทรมานของรุ่นน้องจำนวนมาก จากนั้นก็จับคู่ให้ใหม่กับคนที่ชนะหรือเชือกยังผูกอยู่กับอวัยวะเพศอีกหมุนเวียนไปเรื่อยๆ

นายปฏิภาณ เล่าต่อว่า ยิ่งไปกว่านั้นยังได้จุดเทียนนำไฟมาเผาอวัยวะเพศ หรือขนเพชร ของรุ่นน้องทุกคนอย่างทารุณ และยังมีกิจกรรมที่พิสดารให้กินเหล้าแก้มเนื้อสุนัข พร้อมทั้งข่มขู่รีดไถเงินไปซื้อเหล้าอย่างสุดโหด อีกทั้งยังบังคับให้จับดึงอวัยวะเพศตัวเองออกมาโชว์เพื่อน ท่ามกลางความอับอาย ซ้ำยังให้ถอดเสื้อผ้ามือไพล่ทั้งหน้าและหลังนอนหงาย-นอนคว่ำใช้ไหล่คลานตะเกียกตะกายไถไปบนพื้นซีเมนต์จากหน้าคณะวิศวกรรมไฟฟ้าไปจนถึง แผนกช่างกลหนัก

“จะทำอย่างนี้เกือบทุกวันตามแต่รุ่นพี่จะสั่ง ตามร่างกายถูไถพื้นซีเมนต์จนเกิดบาดแผลเต็มตัวและเจ็บปวดไปหมด เสื้อผ้าชุดใหม่ ๆ ขาดทั้งหมด แม้แต่กลางคืนรุ่นพี่เรียกให้ออกมารับน้อง ก็ต้องออกมา หากออกมาช้าก็จะถูกซ่อมเหมือนทหาร ถึงแม้อาจารย์จะรู้แต่ก็ไม่เคยสนใจ” นายปฏิภาณ กล่าว



รอยแผลตามร่างกายของ นายปฏิภาณ อินยะโพธิ์ นักศึกษา ม.เทคโนโลยีราชมงคลอีสาน จ. นครราชสีมา


นายปฏิภาณ กล่าวต่อว่า เพื่อนๆ ของตนหลายคนที่ทนต่อการรับน้องในครั้งนี้ได้ ก็เพียงเพื่ออยากจะได้รุ่น แต่สำหรับตนยอมรับว่าการรับน้องมันหนักเกินไป จนไม่สามารถรับได้ พ่อแม่สงสารจึงให้ออกมาหาที่เรียนใหม่ ซึ่งตนไม่สามารถที่จะนั่งเรียนหนังสือได้เพราะความอิดโรยเจ็บปวดบาดแผลที่มีอยู่ตามร่างกายที่รุ่นพี่มีการรับน้องทั้งกลางวันและกลางคืนอย่างไม่มีขอบเขต

นายปฏิภาณ เล่าต่อว่า ก่อนหน้าที่จะเอ็นทรานซ์ ทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสานฯ มาประถมนิเทศที่วิทยาลัยเทคนิคบุรีรัมย์ บอกว่า จะไม่มีการรับน้องใหม่ แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่ เพื่อนบางคนต้องได้รับบาดเจ็บถึงกับเข่าหลุดจากการรับน้องและกลับบ้านไป ซึ่งตนท้าให้ตรวจสอบได้ว่าเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกันมีบาดแผลตามร่างกายทั้งมากและน้อยตกอยู่ในสภาพเช่นเดียวกับตนไม่น้อยกว่า 50 คนจาก 66 คนในรุ่นของแผนกฯ นี้

“ทั้งเงินที่พ่อแม่ให้ไปเรียนหนังสือก็ต้องหมดไปกับการรับน้องโดยใช่เหตุ เพราะการรับน้องได้มีรุ่นพี่มาคุมถ้าไม่ทำตามรุ่นพี่ก็จะถูกตะโกนด่า ด้วยความกลัวก็ต้องทำตาม ถ้าไม่ทำก็ไม่รู้จะพึ่งใครเพราะกลัวถูกทำร้าย ยืนยันว่าจะไม่กลับไปเรียนที่สถาบันนี้อีก”นายปฏิภาณ กล่าว

ส่วนนายสุรศักดิ์ อินยะโพธิ์ ผู้ปกครองของนายปฏิภาณ กล่าวว่า หลังจากเห็นสภาพลูกชายตกใจต้องพาลูกชายไปทำแผลและตรวจร่างกายที่โรงพยาบาล แล้วพยายามโทรศัพท์ติดต่อกับทางมหาวิทยาลัยฯ ให้มาแสดงความรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับลูกชาย แต่ไม่ได้ผลไม่มีอาจารย์คนใดมารับสาย จึงได้โทรฯไปร้องเรียนที่หมายเลข 1579 ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ของกระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพฯ แต่ได้รับคำตอบเพียงว่าจะเข้าไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและจะดำเนินการกับทางมหาวิทยาลัยฯ และทางกระทรวงฯ ได้โทรศัพท์มาสอบถามลูกชายตนเท่านั้นแล้วก็เงียบหายไป

นายสุรศักดิ์ กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องให้ผู้มีอำนาจเข้ามาตรวจสอบเอาผิดกับผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ ที่ปล่อยให้มีการรับน้องใหม่อย่างรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งไม่เชื่อว่าอาจารย์ในสถาบันจะไม่ทราบ แต่เป็นการไม่เหลียวแลมากว่า จึงขอให้กระทรวงศึกษาธิการเร่งเข้ามาแก้ไข หากไม่เช่นนั้นก็จะเป็นอย่างนี้เรื่อยไปทุกปี และจะสร้างความเดือดร้อนให้กับนักศึกษารายอื่นๆ อีก

“ลูกชายผมเองต้องเสียโอกาสที่จะเรียนต่อถึงแม้จะเอ็นทรานซ์ได้ก็ตาม ผมเองรับไม่ได้และจะไม่ให้ลูกชายกลับไปเรียนที่มหาวิทยาลัยฯ ดังกล่าวนี้อย่างแน่นอน เพราะการกระทำเช่นนี้เป็นการกดดันทำร้ายจิตใจทั้งลูกและผู้เป็นพ่อเกินกว่าที่จะรับได้”นายสุรศักดิ์ กล่าว


ยังไม่มีคำวิจารณ์ สำหรับ บทความนี้

คนตั้ง  : 
อีเมล์ :
คำวิจารณ์  : 
ยืนยัน
   
วันที่ตั้งกระทู้  : 
19-04-2024


เวป หางาน ค้นหางาน ตำแหน่งงาน พนักงาน ejobonline.com