ในนครโฮจิมินห์ แฟชั่นยีนส์กลายเป็นเทรนด์ที่ไม่มีความสิ้นสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเวลานี้ ที่มีการผสมผสานระหว่างผ้ายีนส์กับลูกปัดเลื่อม ทำให้สาวๆ ชาวเวียดนามได้กลับมาเห่อยีนส์กันอีกครั้ง คราวนี้ตัวล่างสั้นลงเสียด้วย
       
       บริษัทโมเดลลิ่งเหวียดฮุง (Viet Hung) สร้างความโดดเด่นให้กับยีนส์ ด้วยการออกแบบให้มันมีสีสันใหม่ๆ โดยนำผ้ายีนส์แบบดั้งเดิม และ มีเนื้อหยาบ แข็ง ประกอบเข้ากับงานฝีมือ ด้วยการใช้ลูกปัดทำลวดลายบนเนื้อผ้าให้ดูมีความแตกต่างแต่สวยงาม ในรูปแบบของกระโปรงยีนส์สั้น ที่ช่วงปลาย เรียวเข้าหาตัว ให้ความรู้สึกมีเสน่ห์ ซึ่งอาจจะใส่คู่กับเสื้อคอตตอน เสื้อสายเดี่ยว หรือเสื้อยืดผ้าฝ้ายสีสดใส ประดับด้วยสร้อยคอที่มีความแวววาว
       
       ไม่ว่าจะใส่ไปนั่งทานกาแฟกับคนรัก หรือเดินทางท่องเที่ยวไปในที่ต่างๆ ทุกคนต่างเห็นตรงกันว่า ยีนส์นั้นทำให้ดูวัยรุ่นและทันสมัยอยู่เสมอเสน่ห์ของยีนส์นั้น ถูกซ่อนอยู่ภายใต้เนื้อผ้าหยาบ ที่มีความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
       
       หลังจากที่ความนิยมสวมใส่เสื้อผ้าที่ทำจากยีนส์นั้นแพร่หลายไปทั่วโลก ยีนส์ก็ได้เข้ามาสู่ประเทศเวียดนามเช่นกัน และถูกสร้างสรรค์ออกมาจนกลายเป็นแฟชันฮิตของสาวๆ ในประเทศนี้ ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีใครที่จะไม่รู้จักยีนส์
       
       จากแต่ก่อนที่ยีนส์เคยดูเป็นแฟชันระดับสูง กลับได้รับความนิยมโดยทั่วไป จนธุรกิจขยายออกไปยังหลายประเทศในโลก แต่ช่วงต้นยุค 1980 แฟชันยีนส์ไม่ได้พยายามที่จะหาทางเปลี่ยนสไตล์การออกแบบใหม่ๆ ทำให้ยีนส์ดูเป็นแฟชันที่เรียบเกินไป
       
       จนกระทั่งต่อมาพี่น้องตระกูลมาร์เซียโน (Marciano) ที่เติบโตมาจากเมืองมาร์ไซล์ (Marseille) ฝรั่งเศส และกลายเป็นอัจฉริยะทางด้านการออกแบบเสื้อผ้านั้น ได้ตั้งร้านขายเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์ GUESS และได้นำเอาเนื้อผ้าที่มีความเรียบลื่นนุ่มนวลมาประกอบเข้ากับยีนส์ ในรูปแบบต่างๆ หลากหลาย
       
       พวกเขาออกนอกกรอบแนวคิดแบบเดิมๆ ทำให้ยีนส์ดูมีความทันสมัย เหมาะสำหรับวัยหนุ่มสาว โดยรวมเอาความเข้มแข็งกับความอ่อนโยนไว้ด้วยกัน ทำให้ยีนส์ได้รับความนิยมไปถึงทุกระดับชั้น และได้รับความสำเร็จจนเป็น สัญลักษณ์ของศตวรรษที่ 20
       
       การโฆษณาเสื้อผ้าบางตัว ได้เปิดโอกาสให้นางแบบที่ยังไม่เป็นที่รู้จักถูกแจ้งเกิดในวงการ มีชื่อเสียงระบือไกล จากการเดินแบบเพียงงานเดียว เช่น คลาวเดีย ชิฟเฟอร์ (Claudia Schiffer) นาโอมิ แคมป์เบล (Naomi Cambpell) หรือ คาร์รี โอติส (Carre Otis) และ เอวา เฮร์ซิโกวา (Eva Herzigova) ต่างก็เริ่มต้นอาชีพด้วยการเดินแบบให้เสื้อผ้าของ GUESS
       
       ยีนส์แบบใหม่ เริ่มแพร่ไปทั่วโลก จากตะวันตก ดินแดนคาวบอย อเมริกา ไปถึงประเทศแห่งหาดทรายและแสงแดดอย่างบราซิล เมืองแห่งความสวยงามอย่างปารีส จนกระทั่งเข้าสู่เวียดนามในที่สุด
       
       การเปลี่ยนแปลงรูปลักษณ์ของยีนส์นั้น เป็นไปตามกาลเวลาและฤดูกาล แต่สิ่งที่อยู่ภายใต้เนื้อผ้าที่หนาหนัก ถูกออกแบบให้มีความดึงดูดสวยงาม พร้อมๆกับมีความแข็งแรงทนทานในเวลาเดียวกัน
       
       ผู้ออกแบบสามารถทำให้ยีนส์นั้น เมื่อสวมใส่สามารถที่จะปรากฎออกมาเป็นเส้นโค้งเว้าตามรูปร่างของหญิงสาว หรือแสดงออกมาในรูปแบบของความแข็งแกร่งแบบผู้ชายก็ได้เช่นเดียวกัน
       
       ในปัจจุบัน ตามถนนหนทางไม่ว่าจะในประเทศไหนๆในโลก สามารถมองเห็นสินค้าจากยีนส์ หลากหลายยี่ห้อและรูปแบบที่แตกต่างกันอยู่ทั่วไป ตั้งแต่กางเกงขายาว เสื้อคลุมแจ็คเก็ต หรือ กระโปรง เสื้อผ้าเหล่านั้นต่างถูกผลิตออกมาอย่างมากมาย