บทความเลขที่
602 |
|
คนสร้างบทความ : |
poyhome |
วันที่ตั้งบทความ : |
2006-04-23 |
คะแนนบทความ : |
1406(เฉพาะเดือนนี้ ) |
จำนวนคนอ่าน : |
3546(เฉพาะเดือนนี้ ) |
ชีวิตของ ร.ต.อ.ดร.ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์ อดีตรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย หลังลาออกจากทุกตำแหน่งทางการเมืองตั้งแต่ปี 2548 ก็พลันหายหน้าไปจากแวดวงสังคม การกลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง เมื่อผลการสำรวจออกมาว่าคนไทยต้องการให้เขาเป็นนายกรัฐมนตรีมากกว่าคนอื่นๆ รายการสุริวิภา โดยสุริวิภา กุลตังวัฒนา ได้ชวนพูดคุยถึง "ชีวิตนอกทำเนียบ" ผู้ชายคนนี้ไปอยู่ที่ไหน ทำอะไร และเสียงเรียกร้องของคนไทย จะตัดสินใจอย่างไรกับอนาคตทางการเมือง หลังผ่านช่วง 4 ปีของการทำงานการเมือง ซึ่งถือว่าเป็นช่วงที่ทุกข์ที่สุดในชีวิต ดร.ปุระชัย ได้เว้นวรรคจากวงการนี้ไปนานกว่า 1 ปี วันนี้เขาเล่าถึงช่วงที่หายไปว่า "ผมไปอยู่กับครอบครัวที่ เมืองไครสต์เชิร์ช นิวซีแลนด์ มีบ้านอยู่ที่นั่นซื้อไว้ตั้งแต่ปี 2540 ให้ลูกๆ ไปเรียนหนังสือ มีความสุขดีครับ เพราะตอนที่ทำงานการเมืองได้พบกับครอบครัวน้อยมาก อยู่ที่นั่นก็ทำงานช่วยเหลือภรรยา ทำสวน ที่บ้านปลูกสวนดอกไม้ล้อมรอบ ช่วยตัดต้นไม้ เพราะค่าตัดประมาณ 29,000 บาท พ่อแม่ลูกช่วยกันทาสีบ้านใหม่ เพราะถ้าจ้างคนก็เสียเงินเป็น 8-9 แสน พอเสร็จ ทุกคนก็ภูมิใจว่าเราทำเอง กลางวันที่ลูกเรียนหนังสือ ถ้าเขาอยากกินอาหารร้อนๆ ภรรยาผมก็จะทำ แล้วให้ผมเดินไปส่ง 3 กิโล เป็นสเปเชียล เดลิเวอรี่" ดร.แฟมิลี่แมน กล่าวยิ้มๆ กลับมาเมืองไทยหนนี้ ท่านปุระชัยบอกว่า มาเพื่อทำหน้าที่พลเมืองไทยที่ดี ทั้งจัดการเรื่องภาษี และไปใช้เลือกสิทธิเลือกตั้ง สำหรับวันว่าง นอกเหนือจากทำสวนและอ่านหนังสือแล้ว ก็มักจะมาวิ่ง-เดินออกกำลังกายที่สวนรถไฟ ซึ่งเมื่อเย็นวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ได้ชวน "แทน" ธรรมาธิปต์ ลูกชายคนโต และ "หนูแหม่ม" สุริวิภา มาออกกำลังกายด้วยกัน "ผมต้องดูแลสุขภาพหน่อยครับ เพราะปีนี้ 56 แล้ว เมื่อตอนทำงานก็จะวิ่งที่สวนสมเด็จฯ ประมาณหนึ่งชั่วโมง วิ่ง 3 รอบ เดิน 2 รอบ ตอนนี้มาที่สวนรถไฟ หนึ่งรอบระยะทางก็ประมาณ 3 กิโลเมตรครับ จะเดิน 1 รอบ และวิ่ง 1 รอบ ใช้เวลาประมาณ 20-30 นาที เพราะอายุเริ่มเยอะต้องคอยระวังเรื่องความร้อนด้วย ภรรยาจะคอยเตือนไม่ให้โลดโผนมาก ผมปลูกฝังนิสัยการออกกำลังกายให้ครอบครัวตั้งแต่เล็กๆ สมัยทศและทิพย์ขวบสองขวบ ผมก็จะใส่รถเข็นพาวิ่งในสวนจตุจักรเป็นประจำ" ว่าแล้วท่านปุระชัยก็นำทีมยืดเส้นยืดสายก่อนออกรอบเดินอีกครั้ง ระหว่างทางผู้คนที่มาออกกำลังกายต่างทักทายท่านด้วยความยินดี หนึ่งในคำทักทายก็คือ จะมารับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีตามที่โพลล์สำรวจหรือไม่? ซึ่งเรื่องนี้ท่านได้ตอบกับ สุริวิภาไว้ว่า "เรื่องของการทำโพลล์เป็นเรื่องธรรมดา แต่สิ่งที่ออกมา ทำให้ผมและคนใกล้ชิดของผม อย่างอาจารย์ที่ มสธ. ก็แปลกใจว่า ผมหายไปนาน ทำไมยังมีชื่อผมติดอยู่ ถ้าหากว่าโพลล์นี้ถูกต้อง ก็เห็นว่า คนกรุงเทพฯ และปริมณฑลที่เขาไปสุ่มมา ไม่ลืมนักการเมือง หากว่าเราทำดีกับเขากับสังคม แต่ตรงนี้ไม่ได้แปลว่าจะไปเป็น อย่างน้อยก็แค่บอกว่าเราอยู่ในหัวใจประชาชน แต่ขั้นตอนของการหานายกฯ ไม่ใช่ประชาชนถูกใจ แล้วจะไปเป็นขั้นตอน ต้องถูกต้องตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งชัดเจนว่านายกฯ ต้องมาจากการเลือกตั้ง หากการเลือกตั้งครั้งนี้ถูกต้องตามกฎหมาย นายกรัฐมนตรีก็ต้องมาจากพรรคที่ได้เสียงข้างมาก  แต่ถ้าหากศาลปกครองหรือศาลรัฐธรรมนูญ เห็นว่าการเลือกตั้งครั้งนี้มีปัญหา ถูกประกาศเป็นโมฆะ หรือ ส.ส.ได้ไม่ครบ เปิดสภาไม่ได้ ซึ่งก็ต้องหาทางออกต่อไป จะเลือกตั้งใหม่หรือเปล่า หรือถ้าเลือกตั้งใหม่ ภายใต้รัฐธรรมนูญเดิม พรรคฝ่ายค้านจะบอยคอตต่อไปไหม ถ้าไม่ เลือกตั้งอีก ได้ผลแบบเดิมอีก จะแก้ไขปัญหาได้ไหม ขณะนี้ที่พรรคฝ่ายค้านต้องการคือ หาคนกลางที่ไม่สังกัดพรรคมาพิจารณารัฐธรรมนูญใหม่ อาจจะเป็นช่วงชั่วคราวที่ไม่มีพรรคการเมือง เพื่อออกกฎหมายใหม่ก่อน ...ไม่ทราบเหมือนกันว่าจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของศาลปกครองก่อนครับ"หลังจากที่พากันเดินไปคุยไปได้เกือบรอบ เครื่องก็ร้อนพอที่จะออกวิ่งได้แล้ว หนูแหม่มก็หันหาจักรยานเพื่อมาทุ่นแรงแข่งกับสองหนุ่มสองวัย แต่ก็ได้เหงื่อกันทั่วหน้าแล้ว ก็เดินหาที่นั่งพัก ท่านปุระชัยเลยได้โอกาสแนะนำหนังสือน่าอ่านให้หลายเล่ม โดยเฉพาะ "พุทธจริยาวัตรสำหรับเยาวชน" ซึ่งดูจากสภาพหนังสือแล้วน่าจะมีอายุมากกว่า แทนลูกคนโตที่อายุ 25 ปีเสียอีก "ผมให้หนังสือเล่มนี้กับลูกทุกคน ให้อ่านอย่างน้อยวันละ 1 บทก่อนนอนทุกวัน เป็นการปลูกฝังจริยธรรม คุณธรรมได้เป็นอย่างดี" จากนั้นท่านหยิบ "มหาบุรุษ" ของหลวงวิจิตรวาทการ และ "หลักคำสอนสำคัญในพระพุทธศาสนา" รวมทั้ง "ตากสินมหาราช ชาตินักรบ" เล่มนี้ที่น่าแปลกก็คือ คนเขียนเป็นคนต่างชาติ แคลร์ คีฟ ฟอกซ์ นอกจากนี้ยังมีเล่ม "การวิจัยประเมินผล" ที่ท่านปุแต่งเอง และแทบไม่น่าเชื่อว่าท่านชื่นชอบนวนิยายด้วยเช่นกัน "ผมอ่านคู่กรรม เป็นแฟนติดตามผลงานของคุณทมยันตี มาโดยตลอด ล่าสุดกำลังอ่านเล่มนี้ครับ ตราบแผ่นดินกลบหน้า ได้ลายเซ็นผู้แต่งมาด้วยครับ" หันมาคุยเรื่องลูกๆ บ้าง คุณพ่อลูกสาวเล่าว่า "แทน" ธรรมาธิปต์ รับราชการตำรวจ อยู่กองพิสูจน์หลักฐาน ส่วน "ทศ" ทศธรรม คนกลางสนใจในงานด้านสื่อสารมวลชน กำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัย และ "ทิพย์" ธรรมวิสาข์ ลูกสาวคนเล็กมีฝีมือด้านงานเขียน ได้รับรางวัลการแต่งกลอน และประกวดเรื่องสั้นมาแล้วหลายรางวัล "ผมดีใจที่ลูกๆ เป็นเด็กดี เขามีเป้าหมายและก้าวเดินในทิศทางของตัวเอง เราเพียงช่วยแนะนำเขานิดหน่อยเท่านั้น อาศัยหลักการที่เราปลูกฝังให้แต่เล็กๆ"
|
|
