ครูยัวะคุยในห้องเรียน เตะปลายคาง นร.ชั้น ------------------------------------------------------------------------------------------------

ครูเชียงใหม่ยัวะนักเรียน ป.4 คุยกันในห้องเรียน เตะปลายคางล้มคว่ำ กลับถึงบ้านเก็บตัวเงียบ ยายเค้นความจริงถึงรู้ พาไปตรวจที่โรงพยาบาล ก่อนนำเรื่องเข้าร้องเรียน ผช.ผอ.ร.ร.วัดเมืองสาตร รับเสียใจที่ครูทำเกินเหตุ แต่ลงโทษทางวินัยไม่ได้ เพราะเป็นครูจ้างสอน ผอ.สพท.แนะฟ้องคดีทางกฎหมายเอาผิดในข้อหาทำร้ายร่างกาย การร้องเรียนถึงพฤติกรรมของครูที่กระทำต่อนักเรียนอย่างไม่เหมาะสม ถูกเปิดเผยจากนางสุดใจ สีทอง อายุ 65 ปี อยู่บ้านเลขที่ 235 ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ว่า ด.ช.ศุภณัฐ โกเมฆ อายุ 10 ขวบ นักเรียนชั้น ป.4 โรงเรียนวัดเมืองสาตร ต.หนองหอย อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลาน ถูกนายสุนทร ลังการัตน์ อายุ 40 ปี ครูสอนวิชาดนตรีทำร้ายร่างกาย ด้วยการเตะเข้าที่ปลายคาง ขณะเรียนหนังสืออยู่ในห้องเรียน จนมีรอยช้ำ และขณะนี้ ด.ช.ศุภณัฐ มีอาการหวาดผวา ไม่กล้าไปโรงเรียน “เท่าที่คุยทราบว่า เหตุเกิดหลังเลิกเรียนในวันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ด.ช.ศุภณัฐได้กลับมาที่บ้าน และเข้าไปเก็บตัวอยู่คนเดียวภายในห้องนอนและหายเงียบไปนานนับชั่วโมง ซึ่งมีพฤติกรรมผิดปกติ จึงได้เข้าไปสอบถาม แต่ ด.ช.ศุภณัฐก็ไม่ยอมพูด กระทั่งต้องบังคับจนได้ทราบว่าถูกครูคนหนึ่งในโรงเรียนเตะเข้าที่ปลายคาง ขณะนั่งเรียนอยู่ในห้องเรียน ทำให้ทุกคนที่บ้านตกใจมาก เพราะไม่เชื่อว่าครูที่สอนเด็กนักเรียนจะมีพฤติกรรมเช่นนี้" นางสุดใจ กล่าวว่า หลังจากได้สอบถามรายละเอียดถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จึงได้นำ ด.ช.ศุภณัฐ ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลใน จ.เชียงใหม่ ซึ่งแพทย์ระบุในใบรับรองว่ามีรอยฟกช้ำบริเวณใต้คางด้านขวา ลักษณะคล้ายกับถูกกระแทกอย่างแรง หลังจากนั้นก็ได้เดินทางไปโรงเรียนวัดเมืองสาตร ขอพบครูคนดังกล่าว เพื่อต้องการให้แสดงความรับผิดชอบ ในการกระทำแต่ไม่พบ “เมื่อไม่พบตัวจึงได้เข้าพบ นางอุษณีย์ อุทัยผล ครูประจำชั้น โดยที่ครูประจำชั้นก็ยังไม่ทราบเรื่อง จึงเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ฟัง” ด้าน ด.ช.ศุภณัฐ เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า ในวิชาดนตรีที่เรียนเวลา 10.30-11.30 น.วันที่ 6 ม.ค.ที่ผ่านมา ขณะนั่งบนพื้นห้องร่วมกับเพื่อนคนอื่นๆ และกำลังพูดกับเพื่อนอยู่นั้น นายสุนทร ซึ่งกำลังเขียนโน้ตเพลงอยู่บนกระดานดำได้วางชอล์ก เดินเข้ามาเตะที่ปลายคางอย่างแรง จนล้มลงกับพื้นต่อหน้าเพื่อนที่อยู่ในห้องกว่า 30 คน พร้อมทั้งพูดด้วยความสะใจว่า "โดนอย่างนี้คงจะเงียบได้แล้วใช่ไหม" จากนั้นก็เดินไปเขียนกระดานตามปกติ แล้วทุกคนในห้องก็อยู่ในความเงียบ ไม่มีใครกล้าพูดคุยกันแม้แต่คนเดียว “รู้สึกเจ็บบริเวณคางมาก แต่ก็ไม่กล้าพูดและไม่กล้าบอกใคร เพราะกลัวว่าจะถูกครูเตะอีก จึงรอจนเลิกเรียนแล้วกลับบ้าน และจากนี้ไปก็ไม่อยากไปโรงเรียนเพราะกลัวครูจะทำร้ายอีก” ด.ช.ศุภณัฐ กล่าว นางอุษณีย์ อุทัยผล ครูประจำชั้นของ ด.ช.ศุภณัฐ กล่าวว่า โดยปกติ ด.ช.ศุภณัฐ จะเป็นเด็กร่าเริงแจ่มใสเหมือนกับเพื่อนๆ ในห้อง และเป็นเรื่องปกติที่เด็กในวัยนี้จะพูดคุยกันขณะกำลังเรียนหนังสือ แต่การทำโทษด้วยการเตะเข้าที่ปลายคางเด็กถือว่าเป็นการลงโทษที่เกินกว่าเหตุ ซึ่งผิดวิสัยที่ผู้เป็นครู รู้สึกเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นมาก และไม่คิดว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้กับนักเรียนของตัวเอง “ส่วนจะมีการลงโทษหรือแก้ไขอย่างไรนั้น คงต้องเป็นเรื่องของผู้บริหารโรงเรียนเป็นผู้ตัดสินใจ” ขณะที่ ด.ช.เอกชัย และ ด.ช.สะพล ซึ่งทั้งคู่เป็นเด็กอุปถัมภ์ ไม่มีนามสกุล อายุ 9 ขวบ เพื่อนร่วมชั้นของ ด.ช.ศุภณัฐ กล่าวว่า เหตุการณ์เช่นนี้เคยเกิดขึ้นมาแล้วเมื่อประมาณ 2 สัปดาห์ โดยนายสุนทรได้สอนวิชาพละ และได้จับแขนเด็กนักเรียนชั้น ป.3 คนหนึ่ง จากนั้นได้เตะเข้าที่ขาทั้งสองข้าง จนล้มกลางสนามมาแล้ว จนกระทั่งมาเกิดเหตุกับ ด.ช.ศุภณัฐขึ้นอีก นางชูศรี ปัญญามูลวงษา ผู้ช่วยผู้อำนวยการโรงเรียนวัดเมืองสาตร กล่าวว่า หลังเกิดเหตุ ไม่มีใครมารายงานถึงเรื่องที่เกิดขึ้น เพิ่งจะทราบจากผู้ปกครองของเด็กที่เดินทางมาพบ โดยยอมรับว่า เป็นการทำเกินกว่าเหตุ ซึ่งจะได้รายงานไปยัง นายมงคล พนันตา ผู้อำนวยการโรงเรียนให้ทราบ และจะเรียกตัวนายสุนทรมาสอบถามในวันที่ 12 ม.ค.จากนั้นจะมีการประชุมผู้บริหารโรงเรียน เพื่อหาทางออกในเรื่องที่เกิดขึ้นต่อไป “นายสุนทรเป็นครูที่เกษียณราชการก่อนกำหนด ตามโครงการของรัฐบาล โดยก่อนหน้านี้สอนหนังสืออยู่ใน โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.สารภี เมื่อทางโรงเรียนวัดเมืองสาตร ขาดแคลนบุคลากรครู จึงได้ติดต่อมาช่วยสอนเป็นรายชั่วโมงในวันจันทร์และวันอังคารเท่านั้น ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้น ก็ยังไม่มีมาตรการลงโทษทางวินัยเหมือนกับข้าราชการครูในระบบ” นายมนู มณีรัตน์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จ.เชียงใหม่ เขต 1 (สพท.) กล่าวว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นการละเมิดสิทธิ์ของเด็ก และยังเป็นการทำร้ายร่างกายอีกด้วย ซึ่งแม้ว่านายสุนทรจะเป็นครูในอัตราชั่วคราวที่ไม่อยู่ในอำนาจของ สพท.เขต 1 ที่จะลงโทษทางวินัยได้ แต่ผู้เสียหายเองก็สามารถฟ้องคดีตามกฎหมายได้ในข้อหาทำร้ายร่างกาย “ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่า เงินที่ใช้จ้างครูคนดังกล่าวมาสอนนั้นเป็นงบประมาณในส่วนของโรงเรียนหรือของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เขต 1 เพราะจะต้องดูว่าใครมีอำนาจที่จะเลิกจ้างได้ ซึ่งหากเป็นงบของโรงเรียนเชื่อว่าคณะกรรมการของโรงเรียนจะไม่ปล่อยให้สอนต่อไปอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตามจะลงไปตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้ด้วยตัวเอง” ผู้สื่อข่าว "คม ชัด ลึก " ได้พยายามที่จะติดต่อกับนายสุนทร เพื่อขอทราบถึงเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด แต่ยังตามตัวไม่พบ

ให้คะแนน Vote บทความนี้

ยังไม่มีคำวิจารณ์ สำหรับ บทความนี้

คนตั้ง  :
อีเมล์ :
คำวิจารณ์  :
ยืนยัน	พิมพ์คำว่า " ยืนยัน " ในช่องนี้
วันที่ตั้งกระทู้  :	16-04-2024