บทความเลขที่
130 |
|
คนสร้างบทความ : |
นาย หิว |
วันที่ตั้งบทความ : |
2004-02-11 |
คะแนนบทความ : |
1039(เฉพาะเดือนนี้ ) |
จำนวนคนอ่าน : |
3049(เฉพาะเดือนนี้ ) |
 จัดระเบียบ "หนังแผ่น" แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ!! ------------------------------------------------------------------------------------------------ |
จัดระเบียบ "หนังแผ่น" แก้ปัญหาที่ปลายเหตุ!! komchadluek ผมอยากให้จัดการกฎหมายให้เรียบร้อยก่อน เพราะทุกวันนี้ถ้าเกิดหนังของผมผ่านการเซ็นเซอร์แล้ว ก็ถือว่าจำหน่ายได้ กระทรวงวัฒนธรรมก็เพิ่งตั้ง ผมอยากจะให้คุยกันให้เรียบร้อย วางมาตรการกันให้ดี ไม่ใช่อะไรก็บอกว่าผู้ผลิตหนังวีซีดีผิด" ผู้กำกับหนุ่ม กล่าว เขาให้ความเห็นว่าการเติบโตของหนังแผ่นปัจจุบัน ควรจะเกิดองค์กรขึ้นมารองรับดูแลกันเองได้แล้ว อำนาจการเซ็นเซอร์ก็ปล่อยให้เป็นขององค์กรหนังแผ่นนั่นเอง งานจะได้เป็นระบบมากขึ้น ขณะที่ "เจ้าพ่อหนังแผ่น" อย่าง นิกกี้-สุระ ธีระกล เห็นว่า หากมาตรการควบคุมต่างๆ ส่วนใหญ่เป็นการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ แต่เขาก็เห็นด้วยที่จะห้ามเด็กต่ำกว่า 18 ปี ซื้อหนังวีซีดีวาบหวิว "จริงๆ ผมรู้สึกตลกมากๆ กับการทำงานของรัฐบาล อย่างแรกเลยคือ เขาจะเขียนเรตกันทำไมถ้าไม่ให้เด็กดู ไม่มีหนังวีซีดีดู หนังสือโป๊ก็มีถมไป อีกอย่างหนังฝรั่งที่เข้ามาฉาย แรงกว่าหนังไทยที่เราทำกันเสียอีก ผมว่าน่าจะแบนหนังฝรั่งที่เข้ามาเมืองไทยจะดีกว่า" พระเอกหนุ่ม กล่าว และเห็นว่าหนังวีซีดีวาบหวิวคงไม่มีผลกับปัญหาข่มขืน เพราะคนดูวีซีดีเป็นผู้ใหญ่ที่มีวุฒิภาวะแล้วทั้งนั้น นิกกี้บอกอีกว่า ประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย มีเสรีทางความคิด แต่ปัจจุบันนี้รัฐบาลเหมือนชี้นำให้ผู้คนในสังคมเห็นชอบตามรัฐบาลทุกอย่าง จนเหมือนเป็นประเทศคอมมิวนิสต์ไปแล้ว ทั้งๆ ที่ธุรกิจวีซีดีสร้างงานให้กับคนจำนวนมาก "จริงๆ แล้วผมก็เป็นคนหนึ่งที่ไม่ชอบดูละคร เพราะฉะนั้นหนังวีซีดีก็เป็นหนังที่ผมเลือกดู และทุกครั้งที่ผมดู ผมไม่เคยรู้สึก หรือเกิดอารมณ์ทางเพศขึ้นมาเลย ผมว่าถ้าเกิดใครที่ดูหนังวีซีดีแล้วเกิดอารมณ์ทางเพศแบบนั้น ผมว่าเขาต้องเป็นคนที่ไม่ปกติแน่นอน ผมไม่อยากให้รัฐบาลคิดแต่เรื่องเหล่านี้ อยากจะให้ไปพัฒนาเรื่องของการศึกษามากกว่า เพราะเราสู้ประเทศอื่นเขาไม่ได้เลย เรื่องแบบนี้มันเหมือนเป็นความสุขเล็กๆ ของคนเรา ปล่อยให้เขาคิดเองดีกว่า เพราะทุกคนมีสิทธิเลือก อย่าไปบังคับความคิดของเขาดีกว่า" พระเอกหนุ่ม กล่าว ไม่ว่าการคิดแก้ปัญหาของรัฐบาลจะเป็นการแก้ที่ปลายเหตุหรือไม่ แต่เชื่อแน่ว่า ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายต่างต้องการให้สังคมของไทยเป็นสังคมที่มีระบบระเบียบมากขึ้นเหมือนๆ กัน ปีที่ผ่านมา ทั้งค่ายเล็กค่ายใหญ่ปั๊มหนังแผ่นออกมาจนทะลักตลาด ทั้งแนวชีวิต ครอบครัว บู๊ ตลก และวาบหวิว หลายเรื่องมีแนวเนื้อหาอย่างหนึ่ง แต่ผู้ผลิตพยายามสอดใส่ภาพหวือหวาเข้ามาเพื่อสร้างจุดขาย ส่วนแนวเรื่องที่มุ่งวาบหวิวโดยตรง จุดขายคงจะหนีไม่พ้นโชว์ภาพหวือหวากันจะจะ และฉากเลิฟซีนอันวาบหวามและร้อนแรงของชายหนุ่มหญิงสาว ดารามีชื่อเสียงหลายคนทนแรงเร้าของกระแสหนังแผ่นไม่ไหว กระโดดมาจับแนวนี้กันจริงจัง กระทั่งมีภาพลักษณ์เป็นเจ้าพ่อ-เจ้าแม่หนังแผ่นไปโดยปริยาย หนังแผ่นแนววาบหวิวคือกระแสหนึ่งที่มาแรง ทำให้รัฐบาลเล็งเห็นถึงปัญหาที่จะเกิดขึ้นมา จึงมีแนวคิดที่จะวางมาตรการให้ผู้ผลิตจัดระดับอายุผู้ซื้อ และต้องติดป้ายแสดงถึงเรตหนังบริเวณข้างกล่องบรรจุให้เห็นชัดเจน ล่าสุดกระทรวงวัฒนธรรมออกมาปรามด้วยท่าทีแข็งกร้าว ระบุจะยึดทรัพย์ผู้กำกับและผู้สร้าง สั่งห้ามดาราและผู้เกี่ยวข้องยุ่งเกี่ยวกับภาพยนตร์และละครนานถึง 5 ปี และประกาศให้หนังแผ่นจำนวนหนึ่ง เช่น อีโล้นซ่า ภาค 1-2 พระอภัยมณี ไฟบาป สังเวยมาตรการแข็งกร้าวนี้เป็นกลุ่มแรก หลายคนเห็นด้วย แต่อีกหลายคนบ่นว่าเป็นการแก้ปัญหาปลายเหตุ เรามาฟังความเห็นของทั้งสองฝ่ายกัน จิตแพทย์อย่าง น.พ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน นายแพทย์ใหญ่กรมสุขภาพจิต เห็นด้วยเพราะทุกวันนี้ผู้ผลิตหนังวีซีดีมักใช้ภาพหวือหวาดึงดูดผู้ซื้อมากเกินไป "เด็กวัยรุ่นเป็นวัยที่อยากรู้อยากเห็น เหมือนกับขนมชิ้นไหนที่มีสีสันสะดุดตา ใครเห็นก็สนใจ ซึ่งสิ่งเหล่านี้มีผลต่อสุขภาพจิตของเด็กอย่างแน่นอน แม้รัฐบาลออกกฎหมายห้ามเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปีซื้อ แต่ถ้าเกิดนำมาวางไว้หน้าร้านเลย กฎหมายเหล่านี้ก็คงจะไม่มีผลแน่นอน" น.พ.ทวีศิลป์ กล่าวและว่าการวางจำหน่ายหนังวีซีดีในร้านควรจะจัดให้เป็นระเบียบ เขียนให้ชัดเจนว่าหนังวีซีดีแนวไหนอยู่ตรงไหน และที่สำคัญหนังวีซีดีที่เป็นแนวหวือหวา ควรจะอยู่ภายในร้านที่เด็กเดินเข้าไปได้ยาก หมอยกตัวอย่างต่างประเทศที่จัดเรตให้หนังทุกระดับ ทำให้ผู้ปกครองสามารถกลั่นกรองได้ ไม่เพียงแต่หนังวีซีดีเท่านั้นที่ควรจะจัดเรต น.พ.ทวีศิลป์ ยังเสนอแนะด้วยว่า นิตยสารก็ควรจัดเรตด้วย เพราะปัจจุบันการโพสท่าถ่ายแบบของนางแบบบางครั้ง หวือหวาจนไม่เหมาะกับเด็กวัยรุ่น ทางด้านผู้ประกอบการหนังวีซีดีอย่าง ไก่-ศิววุธ วะชังเงิน เจ้าของและผู้กำกับ บริษัท ไทย เทเลพิคเจอร์ส 2003 จำกัด เห็นว่ามาตรการดังกล่าว ไม่น่าจะมีผลกระทบต่อธุรกิจของตัวเอง เพราะการออกมาตรการนี้เหมือนกับการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ "รัฐบาลจะออกกฎหมายไม่ให้ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ซื้อหนังวีซีดีมาดู แต่ผมว่า คนขายเขาก็ขายอยู่แล้วไม่ว่าใครอายุเท่าไร นอกจากถ้าเกิดคนขายๆ ให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี แล้วจะถูกจับขึ้นหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์เพื่อเป็นตัวอย่าง ผมว่าแบบนี้อาจจะทำให้ผู้ขายเขาไม่กล้าที่จะทำ แต่เจ้าหน้าที่ของรัฐก็ไม่ได้ทำถึงขนาดนั้น เหมือนไม่ได้เอาจริงอะไร" ศิววุธ กล่าว ศิววุธ เสริมว่า ทุกวันนี้การผลิตหนัง ต้องผ่านกองเซ็นเซอร์ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติอยู่แล้ว หนังเรื่องไหนตีตราผ่านกองเซ็นเซอร์แล้ว ก็ถือว่าถูกกฎหมาย จะขายให้เด็กต่ำกว่า 18 ก็ไม่ใช่เรื่องแปลก |
