บทความ เรื่อง : เซ็กซ์โจ๋ไทยติดเอดส์เฉียดแสน
   

บทความเลขที่ 439
คนสร้างบทความ :
a
วันที่ตั้งบทความ :
2005-09-19
คะแนนบทความ :
1119(เฉพาะเดือนนี้ )
จำนวนคนอ่าน :
3557(เฉพาะเดือนนี้ )
   


เซ็กซ์โจ๋ไทยติดเอดส์เฉียดแสน

------------------------------------------------------------------------------------------------
เซ็กซ์โจ๋ไทยติดเอดส์เฉียดแสน
[Update 14 ก.ค. 2548]
สังคมวิกฤติหนัก เผยสถิติวัยรุ่นไทยติดเอดส์แล้ว 80,000 คน แถมแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ เหตุริมี เซ็กซ์แต่ไม่ยอมป้องกัน สธ.แฉมีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มถึงวันละ 50 คน ขณะที่ตัวเลขนักดื่ม สาวคอทองพุ่ง 6 เท่าตัว แถมแนวโน้มวัยรุ่นหญิงกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่พุ่งกระฉูด เมื่อวันที่ 13 กรกฎาคม ที่มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา มีการสัมมนาระดับชาติเรื่องโรค เอดส์ ครั้งที่ 10 โดยมีนักศึกษา นักวิชาการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ องค์กรพัฒนาเอกชน องค์กรศาสนาทั้งในและต่างประเทศปรมาณ 3,000 คน เข้าร่วมประชุม

นายพินิจ จารุสมบัติ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวระหว่างเป็นประธานเปิดการสัมมนาในหัวข้อ "เอดส์ป้องกันได้ เยาวชนไทยมีส่วนร่วม"ว่า สถานการณ์โรคเอดส์ในเยาวชนขณะนี้มีความรุนแรง และซับซ้อนมากขึ้น จากผลพวงการเปลี่ยนแปลงของสังคมที่ครอบครัวมีความผูกพันกันน้อยลง วัยรุ่น มีค่านิยมดำเนินชีวิตตามกระแสตะวันตก มีเสรีภาพทางเพศ แต่ขาดความรู้ที่ถูกต้องในเรื่องเพศศึก ษา ขาดทักษะในการหลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ ทำให้วัยรุ่นไทยเริ่มมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย เฉลี่ยต่ำกว่า 17 ปี

ทั้งนี้ ร้อยละ 40 เคยมีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนแบบฉาบฉวย และมีอัตราการใช้ถุงยางอนามัย เพียงร้อยละ 25-30 เท่านั้น ทำให้วัยรุ่นไทยกำลังกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสำคัญของโรคเอดส์ โดย คาดว่ามีวัยรุ่นเยาวชนติดโรคเอดส์แล้วประมาณ 80,000 คน

นายพินิจกล่าวถึงแนวทางป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์ว่า จะเน้นรณรงค์ให้ประชาชนตระ หนักและป้องกันตนเองโดยเฉพาะเปลี่ยนพฤติกรรมกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งรัฐบาลมีนโยบายให้จัดทำหลักสูตร เพศศึกษาสำหรับนักเรียนตั้งแต่ประถมศึกษาไปจนถึงอุดมศึกษาเพื่อให้เยาวชนมีความรู้ทาง เพศอย่างเหมาะสม ไม่มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควร หากหักห้ามใจไม่ได้ก็ให้รู้จักการมีเพศสัมพันธ์ที่ ปลอดภัย

รองนายกรัฐมนตรีกล่าวด้วยว่า ในปีนี้รัฐบาลตั้งเป้าลดผู้ติดเชื้อรายใหม่ไม่ให้เกิน18,000 คน โดยจะส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนของสังคมมีส่วนร่วมในการป้องกันและแก้ไขปัญหาเอดส์อย่าง จริงจัง และจัดบริการด้านต่างๆ อย่างครบวงจร ทั้งการรักษาทางการแพทย์ การจัดสวัสดิการ ทางสังคม การสังคมสงเคราะห์ โดยตั้งแต่เดือนตุลาคม 2548 นี้เป็นต้นไป ผู้ป่วยโรคเอดส์ ทุกคนสามารถใช้บริการยาต้านไวรัสเอดส์ได้ตามโครงการ 30 บาท รักษาทุกโรค ซึ่งถือเป็นประ เทศแรกของโลกที่ทำ

ด้าน ศ.นพ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้มีผู้ติดเชื้อเอดส์ทั่วโลกประ มาณ 40 ล้านคน ส่วนในไทยมีผู้ติดเชื้อเอดส์แล้วกว่า 1 ล้านคน ในจำนวนนี้ยังมีชีวิตอยู่กว่า 5 แสน คน โดยมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ปีละ 2 หมื่นคน หรือประมาณวันละ 50 คน ในจำนวนนี้ประมาณร้อยละ 30 เป็นกลุ่มวัยรุ่นและเยาวชนและมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น

วันเดียวกันที่ศูนย์วิจัยปัญหาสุรา(ศวส.)ซึ่งสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)สถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.)มีการประชุมวิชาการสุราระดับชาติ ครั้งที่ 1 โดย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รมช.สาธารณสุข กล่าวถึงสถานการณ์ปัญหาสุราในประเทศไทย ว่า จากฐานข้อ มูลการบริโภคเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ขององค์การอนามัยโลก ร่วมกับองค์การอาหาร และ เกษตรศาสตร์ พบว่าเมื่อปี 2543 คนไทยดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ต่อหัว เท่ากับ 13.59 ลิตร สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก และมีแนวโน้มบริโภคเพิ่มมากขึ้น

รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า กลุ่มที่น่าจับตามองมากที่สุด เพราะกลายเป็นนักดื่มหน้าใหม่คือ กลุ่มผู้หญิงวัย 15-19 ปี โดยช่วงเวลาระหว่างปี 2539-2546 หรือเพียง 7 ปี นักดื่มกลุ่มนี้เพิ่ม ขึ้นเกือบ 6 เท่าตัว จากร้อยละ 1.0 เป็นร้อยละ 5.6 ขณะที่อายุของผู้ที่ริเริ่มดื่มสุราครั้งแรกมี แนวโน้มลดลง

สำหรับผลกระทบจากการบริโภคแอลกอฮอล์ก่อให้เกิดความเสียหายต่อเศรษฐกิจเฉพาะใน ส่วนที่เกี่ยวกับอุบัติเหตุจราจร ประมาณหนึ่งแสนล้านบาทต่อปี ถ้ารวมความสูญเสียทางเศรษฐกิจทั้ง หมด คิดเป็นมูลค่าไม่ต่ำกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี นอกจากนี้ยังก่อให้เกิดความสูญเสียต่อตัวผู้บริโภค ต่อครอบครัว ชุมชน และสังคมโดยรวม เช่น การก่อให้เกิดโรคและความเจ็บป่วย ปัญหาอาช ญากรรม และความรุนแรง

ที่วัดสวนแก้ว จ.นนทบุรี มีการเปิดโครงการงดเหล้าเข้าพรรษา เพื่อคนที่คุณรัก โดยมี พิธีหลอมเหล้า-เบียร์ หล่อเป็นเทียนพรรษาเพื่อจุดบูชาในช่วงเทศกาลเข้าพรรษา โดยนพ.สุชัย เจริญรัตนกุล รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ทุกวันนี้คนไทยเสียเงินซื้อเหล้าสูงถึงปีละ 1.5 แสนล้าน บาท

นอกจากนี้ รมว.สาธารณสุขกล่าวว่า ขณะนี้รูปแบบมอมเมาเยาวชนให้ดื่มเหล้าเปลี่ยนไป โดยมีการแอบนำเหล้ามาขายในรูปแบบของน้ำปั่นรวมกับน้ำผลไม้สีสันต่างๆ วางขายตามรถเข็น ตามย่านราตรี ซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์แรงกว่าน้ำพั้นซ์ สามารถสั่งเพิ่มแอลกอฮอล์ได้ตามต้องการ ซึ่งกระทรวงได้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้มงวดกวดขันแล้ว

ด้านพระราชธรรมนิเทศ หรือพระพยอม ประธานมูลนิธิวัดสวนแก้ว เสนอว่า การรณรงค์ไม่ ให้เยาวชนดื่มเหล้าต้องเริ่มที่ระดับใหญ่ๆ เช่น รัฐมนตรี อธิบดี และหน่วยราชการต้องช่วยกัน รวมทั้งให้มีกฎหมายห้ามไม่ให้ขายเหล้าในช่วงเวลาทำงาน ตั้งแต่เวลา 07.00-17.00 น. และอยากเสนอให้เป็นสินค้าโอท็อปตัวใหม่ คือ หากตำบลไหนมีการงดเหล้าเข้าพรรษาได้มากที่สุด ให้สามารถนำมาลดภาษีให้กับตำบลหรือหมู่บ้านนั้นไป

http://www.naewna.com/p1.4.htm#a4


ยังไม่มีคำวิจารณ์ สำหรับ บทความนี้
คนตั้ง  : 
อีเมล์ :
คำวิจารณ์  : 
วันที่ตั้งกระทู้  : 
28-03-2024


เวป หางาน ค้นหางาน ตำแหน่งงาน พนักงาน ejobonline.com