บทความเลขที่
576 |
|
คนสร้างบทความ : |
a |
วันที่ตั้งบทความ : |
2006-01-13 |
คะแนนบทความ : |
1355(เฉพาะเดือนนี้ ) |
จำนวนคนอ่าน : |
3257(เฉพาะเดือนนี้ ) |
นายกฯ แนะโจ๋อย่าอายซื้อถุงยางใช้ก่อนมีเพศสัมพันธ์ โดย ผู้จัดการออนไลน์ 3 ธันวาคม 2548 16:05 น. นายกฯ ห่วงเยาวชน แนะอย่าอาย ให้ซื้อถุงยางอนามัยใช้ก่อนมีเพศสัมพันธ์ ป้องกันการติดเอดส์ และป้องกันการตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควร พร้อมชูครอบครัว การศึกษา ศาสนา เป็นยุทธศาสตร์พัฒนาเยาวชน พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวในรายการ นายกฯ ทักษิณ คุยกับประชาชน ว่า วันที่ 1 ธันวาคมของทุกปี องค์การอนามัยโลก ถือเป็นวันรณรงค์ร่วมใจป้องกันและแก้ไขปัญหาโรคเอดส์ ปรากฏว่าภาพรวมของการติดเชื้อเอดส์ยังเพิ่มขึ้นในทุกพื้นที่ทั่วโลก ในปี 2548 ผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 4.9 ล้านคนทั่วโลก จากประชากร 6,000 กว่าล้านคน คาดว่ามีผู้ติดเชื้อทั่วโลกประมาณ 4 ล้านคน ผู้เสียชีวิตจากโรคเอดส์มาแล้ว ประมาณ 3 ล้านคนจากทั่วโลก ในจำนวนนี้เป็นเด็กที่เสียชีวิตมาจากโรคเอดส์มากกว่า 500,000 คน สำหรับสถานการณ์ในประเทศไทย ปี 2548 จนถึงขณะนี้มีผู้ติดเชื้อโรคเอดส์สะสมถึง 1,090,000 คน เสียชีวิต 550,000 คน ยังมีชีวิตอยู่ประมาณ 540,000 คน รายใหม่เกิดขึ้นประมาณปีละ 18,000 คน ถือว่าดีขึ้นมากในด้านการควบคุม ที่น่าสนใจคือตัวเลขของการติดเชื้อเอดส์ของเด็ก วัยตั้งแต่ 15 - 20 ปีกว่ามีมากขึ้น เป็นที่น่าห่วง "จึงขอเตือนเยาวชนทั้งหลาย การมีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรเป็นเรื่องที่ไม่ดี นอกจากจะป้องกันในเรื่องการตั้งครรภ์แล้ว ก็ต้องป้องกันเชื้อเอดส์ด้วย คือการสวมถุงยางอนามัย เป็นสิ่งที่จะต้องทำ ขณะนี้กระทรวงสาธารณสุขกำลังรณรงค์การใช้ถุงยางอนามัย เพราะว่าบางครั้งตอนอยากจะมีเพศสัมพันธ์ไม่มีความอาย แต่พอจะใช้ถุงยางกลับอาย จะไปซื้อถุงยางก็อาย ฉะนั้นอย่าเพิ่งอายแต่ต้นดีที่สุดถุงยางหาซื้อได้ตามร้านทั่วไป"นายกรัฐมนตรีกล่าว พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าวด้วยว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมามีพิธีประกาศเจตนารมณ์และมอบนโยบายตามยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็กและเยาวชน ถือเป็นการประชุมที่ดีมาก เพราะว่าเรื่องของเด็กเยาวชน เรื่องปัญหาสังคมเป็นเรื่องใหญ่ ซึ่งได้เชิญทุกภาคส่วน ทั้งภาคองค์กรเอกชน ภาควิชาการ ภาคราชการ ภาคประชาชนทั่วไป เข้ามาร่วมกันคิด ร่วมกันทำ ทางกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้จัดเวิร์กชอป 2 วัน และร่วมกันทำพิธีประกาศเจตนารมณ์ โดยตนได้เน้นย้ำไปว่าเรื่องนี้เหมือนมนุษย์กับเชื้อโรค ถ้ามนุษย์แข็งแรง เชื้ออ่อน ๆ ก็เข้าไม่ได้ ถ้ามนุษย์อ่อนแอ เชื้ออ่อน ๆ ก็เข้าได้ มนุษย์ถึงแม้แข็งแรงก็พยายามอย่าให้เชื้อแรง ๆ เข้า ฉะนั้น ต้องทำ 2 อย่าง คือ ทำมนุษย์ให้แข็งแรง และป้องกันเชื้อแรง ๆ ไม่ให้เข้ามา สังคมก็เหมือนกัน ผมยกตัวอย่าง เช่น มนุษย์คือเด็กเยาวชน ภูมิคุ้มกันที่สำคัญที่ทำให้เขาแข็งแรงได้ก็คือ บ้าน ศาสนา หรือจริยธรรม การศึกษา คือโรงเรียน ผมใช้คำพูดว่า บ้าน วัด โรงเรียน คือบ้าน ศาสนา จริยธรรม และการเรียนการสอนที่โรงเรียน สามอย่างนี้คือเป็นภูมิคุ้มกัน สถาบันครอบครัวคือเป็นภูมิคุ้มกันลูกหลาน ให้ลูกหลานเป็นคนซึ่งมีจิตสำนึก มีวิเคราะห์ วิจารณญาณ ที่จะรับสิ่งที่ดี หรือไม่ดีเข้าหาตัว รับสิ่งไม่ดี ก็สามารถดูแลได้ว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี แยกแยะออกว่ามันเป็นสิ่งไม่ดี ก็จะไม่เข้าสู่ตัว เพราะฉะนั้น ถ้าบ้าน คือ สถาบันครอบครัวแข็งแรง ศาสนาแข็งแรง และโรงเรียนแข็งแรง ลูกหลานก็จะแข็งแรง พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว |