บทความเลขที่
142 |
|
คนสร้างบทความ : |
a |
วันที่ตั้งบทความ : |
2004-02-23 |
คะแนนบทความ : |
1159(เฉพาะเดือนนี้ ) |
จำนวนคนอ่าน : |
2956(เฉพาะเดือนนี้ ) |
เผยสภาพฟอนเฟะน.ศ.ไทย จับคู่มั่วเพศ-จี้ฟันสื่อลามก ข้อมูลจากหนังสือพิมพ์มติชน ภาพประกอบทางอินเทอร์เน็ต ไม่เกี่ยวข้องกับข่าว นายรัฐพงศ์ บุญญานุวัตร คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ สถาบันราชภัฏสวนสุนันทา เปิดเผยว่า จากการประชุมสัมมนาของนักศึกษาเรื่อง "เยาวชนไทยกับวิกฤตการณ์ปัญหาสื่อลามกในสังคม" ได้ข้อสรุปว่า การมีเพศสัมพันธ์ในวัยเรียน ส่วนหนึ่งมาจากการที่สื่อลามกมีการแพร่ในสังคมมากขึ้นและผู้บริโภค ทั้งหนังสือต่างๆ VCD, Internet และนักศึกษาที่จับคู่มีเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่จะเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 2 ปีที่ 3 สำหรับวันเวลาที่นิยมมีเพศสัมพันธ์ส่วนใหญ่เป็นเวลาหลังเลิกเรียนหรือตอนบ่ายของวันจันทร์-ศุกร์ รองลงมาได้แก่วันเสาร์-อาทิตย์ ขณะที่วันศุกร์เป็นวันยอดนิยม หลังจากได้ดื่มและท่องเที่ยวในสถานบันเทิง แต่ที่น่าตกใจนักศึกษาบางคู่ไม่สนใจต่อสภาพแวดล้อม และสถานที่แอบมีเพศสัมพันธ์ในห้องน้ำภายในมหาวิทยาลัย "นักศึกษาผู้หญิงที่เข้าร่วมประชุมสัมมนา เล่าให้วงสัมมนาฟังว่า มีเพื่อนเรียนที่มหาวิทยาลัยเอกชนแห่งหนึ่งหารายได้เสริมด้วยการเดินแบบ และชอบนำภาพโป๊หรือภาพนู้ดที่ถ่ายเก็บเอาไว้มาโชว์กลุ่มเพื่อน และเชิญชวนเพื่อนๆ ถ่ายภาพเปลือยเก็บไว้ดู และนำมาอวดกันว่าใครหุ่นดีและอึ๋มกว่ากัน ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นหญิงกลุ่มนี้มองภาพโป๊ ภาพลามกเป็นเรื่องธรรมดา บางคนแอบลอกเลียนดารานักแสดงด้วยการแต่งกายลักษณะยั่วยวนใส่เสื้อผ้ารัดรูป ส่วนสถานที่ที่กลุ่มนักศึกษานิยมไปเสพสุขในยามค่ำคืนมีหลายแห่ง แบ่งเป็นเกรดตามค่านิยมและฐานะทางการเงิน อย่างนักศึกษาที่ฐานะดีมีรถยนต์ นิยมเที่ยวผับแถวทองหล่อ สุขุมวิท พวกรายได้ปานกลางชอบไปย่านรัชดาภิเษก และอาร์ซีเอ ส่วนสถานที่ต่างจังหวัดที่นิยมได้แก่ พัทยา ระยอง ตามด้วยเขาใหญ่ และกาญจนบุรี ซึ่งเขาใหญ่นั้นชอบมีเพศสัมพันธ์กันในเต็นท์" นายรัฐพงศ์กล่าว นายรัฐพงศ์กล่าวอีกว่า นักศึกษาส่วนใหญ่ได้เสนอว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องมีมาตรการเด็ดขาดกับการแก้ปัญหา โดยเฉพาะการเพิ่มบทลงโทษผู้ประกอบการสื่อลามกให้หนัก ให้ลงโทษเจ้าหน้าที่ของรัฐโดยเฉพาะตำรวจ ที่ปล่อยให้มีสื่อลามกแพร่ระบาดในท้องที่ตนเอง กวดขันดูแลพฤติกรรมการมั่วเพศของนักศึกษา และหากสถาบันจับได้ว่านักศึกษามีพฤติกรรมมั่วเพศ ต้องมีมาตรการลงโทษให้เด็ดขาดหรือคัดชื่อออกจากสถาบัน |