บทความ เรื่อง : ‘ไก่ย่าง’ ท่าเต้นฮิต ‘ทั้งเด้ง-ทั้งส่าย’ จำเลยใหม่รับน้อง
   

บทความเลขที่ 380
คนสร้างบทความ :
วันที่ตั้งบทความ :
2005-06-16
คะแนนบทความ :
1210(เฉพาะเดือนนี้ )
จำนวนคนอ่าน :
3859(เฉพาะเดือนนี้ )
   


‘ไก่ย่าง’ ท่าเต้นฮิต ‘ทั้งเด้ง-ทั้งส่าย’ จำเลยใหม่รับน้อง

------------------------------------------------------------------------------------------------
“ปีนี้จะเพิ่มเนื้อหาสาระ จะสอนและปลูกฝังให้รุ่นน้องรักในสถาบันมากขึ้น สอนเรื่องการปรับตัวให้เข้ากับสถานที่ที่จะต้องเข้ามาอยู่ และที่ สำคัญจะสอนเรื่องการมีความรับผิดชอบต่อสังคม พร้อม ๆ ไปกับการสร้างความสนุกสนาน และสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง...”

“ปีนี้จะใช้คอนเซปต์...คิดต่างอย่างสร้างสรรค์...”
“ปีนี้จะเน้นไปในทางสร้างสรรค์มากขึ้น จะเสริมในเรื่องของการบำเพ็ญประโยชน์แก่สังคมที่อยู่บริเวณรอบมหาวิทยาลัยเข้าไป ควบคู่ไปกับการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างรุ่นพี่กับรุ่นน้อง...”
“ปีนี้จะเน้นไม่ให้มีการใช้ความรุนแรงหรือบังคับจิตใจเป็นอันขาด...”

...เหล่านี้เป็นการบอกกล่าวจากนักศึกษาที่เกี่ยวข้องกับกิจกรรม “รับน้อง” ของหลายมหาวิทยาลัย ทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน ซึ่ง “สกู๊ปหน้า 1 เดลินิวส์” ได้ตรวจสอบ และนำเสนอเพื่อเป็นการกระตุ้นเตือนล่วงหน้าไปตั้งแต่เมื่อ 1 เดือนที่แล้ว...หลังการประกาศผลสอบเอนทรานซ์ใหม่ ๆ

เพราะที่ผ่านมาการ “รับน้อง” มีปัญหามาโดยตลอด...
“รับน้องอุบาทว์-โหด-อันตราย” เกิดขึ้นเป็นประจำ !?!

กับการรับน้องของนักศึกษาสถาบันต่าง ๆ ในปี 2548 นี้...หะแรกก็ทำท่าว่าจะไม่มีอะไร กระทั่งมาเกิดกรณี “ยิงตัวตาย” นักศึกษาชายวัย 19 ปี น้องใหม่คณะเกษตรสัตวศาสตร์ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตกำแพงแสน แล้วมีการระบุว่ามีสาเหตุมาจากความกดดันเกี่ยวกับกิจกรรมรับน้อง...เกี่ยวกับ “ท่าเต้น”

“ท่าเต้นไก่ย่าง” กลายเป็นจำเลยสำคัญ...
ท่ามกลางเสียงวิจารณ์-มุมมองหลายด้าน ?!?

“ท่าเต้น” กับการรับน้องนั้นอยู่คู่กันมาโดยตลอด ส่วนใหญ่จะเป็นท่าแปลก ๆ แหวกแนว-พิสดาร ตลกขบขัน ไปจนถึงระดับ “ทะลึ่ง” ซึ่งท่าที่ออกแนวทะลึ่งนั้น...บางกระแสก็ว่ามักเกิดจากกลุ่มรุ่นพี่ที่เป็น “กะเทย” อย่าง “ท่าไก่ย่าง” บางคนก็ว่าเป็นท่าเต้นของพวกกะเทย...แต่ทั้งนี้ก็ยากจะยืนยันชัดเจน

กับเรื่องของท่าเต้นในกิจกรรมรับน้องนี้ ปุริม สหัสกุล อุปนายกองค์การบริหารสโมสรนิสิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย บอกว่า...ท่าเต้นในการรับน้องที่ใช้กันอยู่ในสถาบันต่าง ๆ ทุกวันนี้นั้น ส่วนใหญ่จะเป็นท่าเต้นเดิม ๆ ที่มีการคิด ค้นขึ้นมาตั้งแต่สมัยรุ่นพี่ มีการสืบทอดกันมาเรื่อย ๆ

ท่าเต้นของเกือบทุกสถาบันก็มักจะคล้าย ๆ กัน...
และส่วนใหญ่จะเป็นการเต้นเพื่อความสนุกสนาน

ปุริมย้ำว่า...ท่าเต้นต่าง ๆ นั้นจะออกมาในแนวที่สนุกสนานร่าเริง เป็นการสร้างบรรยากาศในการที่จะให้รุ่นน้องออกมาเต้น โดยจะต้องเป็นไปอย่างสนุกสนาน มิใช่เป็นการมุ่งเน้นทำโทษแต่อย่างใด

“ส่วนท่าเต้นที่ถือว่าเป็นท่าที่ใช้กันแทบจะทุกสถาบัน เรียกได้ว่าเป็นท่าที่ฮอตที่สุดในยุคนี้ ก็เห็นจะเป็น ท่าเต้นไก่ย่างที่เป็นข่าว ซึ่งลักษณะการเต้นนั้นก็จะมีการตีปีกแบบไก่

พอถึงเนื้อร้องประกอบการเต้นท่อนที่ว่า...มันจะถูกไม้เสียบ...เสียบตูดซ้าย...เสียบตูดขวา...ท่าก็จะเป็นลักษณะใช้มือทำท่าเสียบไปที่ก้นแล้วก็เด้งไปข้างหน้า เด้งซ้ายที-ขวาที

แล้วพอถึงท่อนสุดท้ายที่ร้องว่า...ร้อนจริง ๆ ก็จะเป็นท่าที่ต้องส่ายก้นไปมา”

...อุปนายกองค์การบริหารสโมสรนิสิตจุฬาฯ อธิบาย “ท่าเต้นไก่ย่าง” อย่างคร่าว ๆ

และกับท่าเต้นสุดฮิตของหลาย ๆ สถาบัน ซึ่งบางคนก็บอกว่าเคยเต้นกันมาตั้งแต่เรียนมัธยมฯ ด้วยซ้ำ...อย่าง “ท่าเต้นไก่ย่าง” กับกรณีที่ว่ามีผลกดดันถึงขั้นทำให้บางคนถึงกับคิดสั้นเพราะรับไม่ได้ เมื่อลองตรวจสอบความคิดเห็น ของวัยรุ่น-วัยเรียนที่แสดงออกผ่านทางสื่ออินเทอร์เน็ต...ก็พบว่าเป็นไปอย่างอึงมี่พอสมควร

ลองตัดตอนเฉพาะเนื้อความที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ตรง ๆ ก็ยกตัวอย่างเช่น...

“น่าจะลองคิดดูว่าเพราะจากการรับน้อง จากการให้เต้นท่าไก่ย่างเท่านั้นหรือ...”

“มีเรื่องอื่นมาเป็นองค์ประกอบด้วยหรือเปล่า แค่ท่าเต้น จะไปเอาอะไรกับมันเหรอ...”

“ท่าเต้นไก่ย่างเป็นท่ามาตรฐานของการเข้าค่ายเลยนะ...มีท่าอื่นที่ทะลึ่งกว่าอีกเยอะ...”

“ท่าเต้นท่านี้แค่เข้าค่ายลูกเสือก็เต้นกัน คิดว่ามันไม่เห็นมีอะไรเลย น่าเสียดายอนาคต...”

“กับแค่ท่าเต้นแล้วขนาดนี้ มันดูจะเกินไปหน่อย แต่ก็ขอแสดงความเสียใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น...”

“เห็นด้วยกับการเปลี่ยนการรับน้อง เปลี่ยนท่าเต้นที่ไม่เหมาะสม เอาเวลาเต้นแร้งเต้นกาไปทำกิจกรรมเพื่อสังคมดีกว่า ไม่ทำร้ายจิตใจใคร แถมได้ประโยชน์ต่อสังคม...”

“คิดหาวิธีที่ทำดี ๆ กว่านี้ดีกว่า ทำไมไม่จัดกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ในวันรับน้อง หากเป็นเช่นนี้ความพยาบาทก็เกิดขึ้นเรื่อย ๆ แหละ รุ่นหนึ่งผูกไปอีกรุ่นหนึ่ง เห็นแล้วเศร้า...” ฯลฯ

ทั้งนี้และทั้งนั้น เมื่อมีเยาวชนคนหนึ่งต้องจากไปทั้งที่เพิ่งจะได้เป็นนักศึกษาใหมของมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเพราะกดดันเรื่อง “รับน้อง-ท่าเต้น” เพราะสาเหตุอื่น หรือเพราะหลายสาเหตุผสมกัน ไม่ว่าจะยังไงก็น่าเสียใจที่ต้องสูญเสียอนาคตของชาติไปอีกหนึ่ง และที่สำคัญ...ต้องขอแสดงความเสียใจกับทางครอบครัว

ไม่ว่าจะยังไง...ก็ควรใช้กรณีนี้เป็นอีกหนึ่ง “อุทาหรณ์”
ระมัดระวังเรื่องการ “รับน้อง” ให้เหมาะสมยิ่งขึ้นอีก...
“อย่าให้เกิดเรื่องเศร้า” เพราะรับน้อง...อีกเลย !!!.



ยังไม่มีคำวิจารณ์ สำหรับ บทความนี้
คนตั้ง  : 
อีเมล์ :
คำวิจารณ์  : 
วันที่ตั้งกระทู้  : 
27-12-2024


เวป หางาน ค้นหางาน ตำแหน่งงาน พนักงาน ejobonline.com